Wealth Sharing

ผลงาน“กองทุนประกันวินาศภัย” ปี65 ชำระหนี้เคลมโควิด 2 พันลบ.- 1.3หมื่นคำขอ


29 ธันวาคม 2565

กองทุนประกันวินาศภัย ระบุ ผลงานปี 65 ชำระหนี้เคลมโควิดกว่า 2 พันล้านบาท เหลือค้าง 5.2 หมื่นล้าน ตั้งเป้าเร่งพิจารณาจ่ายหนี้ปี 66 ไม่ต่ำกว่า 1 แสนคำขอ หวังคปภ.เพิ่มเงินนำส่งกองทุนเป็น0.5% รองรับการจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ในปี 67

นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย เปิดเผยถึงภารกิจของกองทุนฯ ว่า ปี 2565 กองทุนฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ชำระบัญชีบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯ เพิ่มอีก 2 บริษัท คือ บมจ. ไทยประกันภัย และ บมจ. อาคเนย์ประกันภัย โดยคำทวงหนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกรมธรรม์โควิด “เจอ จ่าย จบ” ซึ่งรวมกับที่กองทุนฯ ดำเนินการกับบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯ เดิมอยู่ 6 บริษัท ทำให้ขณะนี้มีบริษัทประกันวินาศภัยฯ ที่กองทุนฯ กำลังดำเนินการอยู่ถึง 8 บริษัท รวมจำนวนคำทวงหนี้ประมาณเกือบ 7 แสนคำขอ ยอดเงินขอรับชำระหนี้กว่า 6 หมื่นล้านบาท เป็นประกันภัยโควิดกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งกองทุนฯ ได้เร่งดำเนินการพิจารณาคำทวงหนี้และเร่งจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย โดย

กองทุนฯ จึงได้ประสานความร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ขอเชื่อมโยงข้อมูลผลการตรวจ RT-PCR ซึ่งในปี 2565 กองทุนฯ สามารถพิจารณาคำทวงหนี้ได้ถึง 27,792 คำขอ รวมเป็นเงินที่อนุมัติจ่ายกว่า 2.13 พันล้านบาท ซึ่งยังเหลือคงค้างประมาณ 5.2 หมื่นล้านบาท และได้จ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ที่ยืนยันสิทธิรับเงินแล้ว 13,382 คำขอ เป็นเงินกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่ายังมีคำทวงหนี้อีกประมาณ 14,400 คำขอที่ยังไม่มายืนยันสิทธิเพื่อขอรับเงินกับกองทุนฯ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กองทุนฯ จึงได้สร้างระบบและประสานความร่วมมือไปยังสำนักงาน คปภ. ทั่วประเทศ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการรับคำยืนยันสิทธิรับเงินให้แก่ประชาชน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565

สำหรับการเตรียมการในปี 2566 กองทุนฯ ได้วางแผนเพื่อให้มีเม็ดเงินเพิ่มไว้สำหรับการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ โดยได้เสนอไปยัง คปภ. เพื่อพิจารณาเพิ่มอัตราเงินนำส่งตามมาตรา 80/3 แห่ง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย จากเดิมที่บริษัทประกันวินาศภัยนำส่งเข้ากองทุนฯ ในอัตราปีละ 0.25% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 650 ล้านบาท จากเบี้ยประกันภัยที่บริษัทได้รับ เพิ่มเป็น 0.5% หรือ 1,300 ล้านบาท ซึ่งจะเท่ากับอัตราที่กฎหมายกำหนด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ คปภ. และเพื่อเป็นการเร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ กองทุนฯ ได้ตั้งเป้าสำหรับการพิจารณาคำทวงหนี้ในปี 2566 ไว้ที่ 80,000 ถึง 100,000 คำขอ พร้อมกับเตรียมเงินเพื่อการจ่ายเจ้าหนี้ดังกล่าวไว้แล้วประมาณ 5 - 6 พันล้านบาท

นอกจากนี้เพื่อให้กระบวนการพิจารณาคำทวงหนี้ และการสื่อสารประชาสัมพันธ์ สร้างความรับรู้แก่ประชาชนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุม กองทุนฯ ได้เตรียมการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อรองรับการยื่นคำยืนยันสิทธิรับเงินผ่านระบบคุ้มครองสิทธิออนไลน์ เพื่อลดระยะเวลาและลดการใช้ทรัพยากรกระดาษผ่านแอพพลิเคชั่น LINE ซึ่งได้รับงบประมาณเพื่อดำเนินการในปี 2566 และคาดว่าจะทำให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารของกองทุนฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความเข้าใจกระบวนการทำงานของกองทุนฯ เพิ่มมากขึ้น และจะส่งผลให้การยืนยันสิทธิเพื่อขอรับเงินต่อกองทุนฯ ได้เพิ่มขึ้น และลดระยะเวลาในกระบวนการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้