เรื่องเด่นวันนี้

TEGH เข้าโหมดเติบโต Sustainability to Profitability มั่นใจยอดขายยางแท่งปี 67 แตะออลไทม์ไฮ


29 สิงหาคม 2567

บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ส่งซิกแนวโน้มผลงานครึ่งหลังปี 67 สัญญาณดี ตอกย้ำการเข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่ แม่ทัพหญิง “สินีนุช โกกนุทาภรณ์”มั่นใจยอดขายยางแท่งปีนี้ สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากแรงหนุนปริมาณขายยาง EUDR สินค้าไฮมาร์จิ้น แจกข่าวดี! ภายในเดือนต.ค.67 นี้ พร้อมขายไบโอแก๊สให้กับ GGC มูลค่า 1 พันล้านบาท ผูกสัญญายาว 7 ปี แย้มอยู่ระหว่างศึกษาต่อยอดธุรกิจปาล์มใช้เป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าเวชภัณฑ์และ Skincare หนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ข่าวลูกค้า TEGH เข้าโหมดเติบโต Sustainability to Profitability.jpg

นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TEGH) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในครึ่งหลังปี 2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำการเข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่ (Sustainability to Profitability) จากยอดขายยางแท่งที่เร่งตัวมากขึ้น โดยเฉพาะจากปริมาณขายยาง EUDR ซึ่งเป็นสินค้าไฮมาร์จิ้น ที่มีออเดอร์เข้ามามากขึ้น โดยบริษัทฯตั้งเป้าปริมาณขายยาง EUDR เพิ่มขึ้นเป็น 40% ของปริมาณขายยางทั้งหมด

ทั้งนี้ ประเมินว่ายอดขายยางแท่งในปี 2567 จะเติบโตได้ระดับไม่ต่ำกว่า 10% เทียบปีที่ผ่านมายอดขายอยู่ที่ 197,000 ตัน คาดว่าจะสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ บริษัทฯจะเริ่มรับรู้รายได้การขายก๊าซชีวภาพ (ไบโอแก๊ส) จากการที่ บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (TEBP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TEGH ขายให้กับบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) ปริมาณ 40,000-57,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่งตรงทางท่อถึงตัวโรงงาน GGC ในจังหวัดชลบุรี มูลค่า 1 พันล้านบาท ผูกสัญญา 7 ปี โดยพร้อมซื้อขายภายในเดือนตุลาคม 2567 นี้

โดยบริษัทฯเตรียมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ผลิตก๊าซชีวภาพโซน 3 เฟสที่ 2 ในครึ่งหลังของปี 2568 ซึ่งจะทำให้สามารถรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 900 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 90,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีลูกค้าหลายรายที่ให้ความสนใจเข้ามาเจรจา เนื่องจากเป็นก๊าซชีวภาพ เป็นพลังงานสีเขียว (Green Energy) สามารถช่วยในการลดการปลดปล่อยคาร์บอนขององค์กรต่างๆ ได้

กรรมการผู้จัดการ TEGH กล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ โครงการติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ และหม้อนึ่งต่อเนื่อง จะพร้อมเดินเครื่องในไตรมาส 4/67 และ บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบ เช่น Skincare และการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 บริษัทฯมีรายได้รวม 3,139.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.03 ล้านบาท หรือ 3.80% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,024.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 100.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97.26 ล้านบาท หรือ 2,743.08% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3.55 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอัตรากำไรของยางที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และการฟื้นตัวของธุรกิจปาล์มน้ำมัน ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 6,848 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 164.24 ล้านบาท

อนึ่ง TEGH ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่สร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Sustainable Value Chain) ภายใต้การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน สอดรับกับวิสัยทัศน์ “พันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก ที่สร้างห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืน” ต่อไป