B รุกให้บริการชิปปิ้งเต็มสูบ โฟกัสกลุ่มลูกค้าจีน-ดันกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตต่อเนื่อง
บีจิสติกส์ ลุยต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ รุกให้บริการชิปปิ้งเจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน ขยายฐานบริการไปยังกลุ่มขนส่งทางเรือ-ทางอากาศมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน โดยบริษัทเดอะเมกะวัตต์ เตรียมเซ็นสัญญาโครงการติดตั้งโซลาร์เร็ว ๆ นี้
ดร.ปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B เปิดเผยว่า ธุรกิจด้านบริการขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่ม B ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของการให้บริการขนส่งทางบกโดยรถหัวลากยังเติบโตได้ดี ในหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งเครื่องดื่ม ข้าวสาร และอาหารสัตว์
ขณะเดียวกันบริษัทก็มีการขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มขนส่งทางเรือ ทางอากาศ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยต่อยอดไปที่ธุรกิจตัวแทนเพื่อการนำเข้าสินค้า ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ หรือ ชิปปิ้ง ซึ่งจะทำให้รายได้กลุ่ม B มีการเติบโตต่อเนื่อง เพราะกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการชิปปิ้ง มีอัตราการเติบโตสูง โดยช่วงแรกจะมุ่งไปที่ฐานลูกค้าชาวจีน เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
“ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ของกลุ่ม B ยังเติบโตได้ดี รถหัวลากที่มีอยู่ก็ใช้งานเต็ม 100% ถ้ามีความต้องการเพิ่ม เราก็ใช้บริการซับคอนแทรคที่เป็นพันธมิตร ส่วนธุรกิจชิปปิ้ง ก็จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งมากขึ้น” ดร.ปัญญา กล่าว
นอกเหนือจากธุรกิจบริการขนส่งและโลจิสติกส์แล้ว กลุ่ม B ยังมีบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ดำเนินธุรกิจลงทุนและให้บริการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การบริหารโครงการติดตั้งระบบโซลาร์ขนาดใหญ่ กับธุรกิจเก็บและบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ ที่สามารถสร้างรายได้ของกลุ่มให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ล่าสุดอยู่เดอะเมกะวัตต์ อยู่ระหว่างเตรียมเซ็นสัญญาโครงการติดตั้งระบบโซลาร์ในภาคอุตสาหกรรมร่วมกับพันธมิตรหลายราย ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบ Solar Roof, Solar Farm และ Solar Float ในปัจจุบัน เดอะ เมกะวัตต์ มี backlog ในมือกว่า 20 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดเป็นการผสานกำลัง เพื่อสร้างความเติบโตทางธุรกิจในภาพรวมให้กับกลุ่ม B อย่างมั่นคง