ล่าสุดไฮเออร์ ปักหมุดฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศครบวงจรมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทในไทย ที่นิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 3
WHA Group มุ่งเน้นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยแนวคิด "นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (Smart ECO Industrial Estate)" ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป นิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งของบริษัทจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับต้น ๆ ในการลงทุนตั้งฐานการผลิตของผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก ด้วยจุดเด่นของความพรั่งพร้อมของระบบสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาตรฐานระดับโลก ซึ่งช่วยสนับสนุนในด้านการผลิตของโรงงาน โลจิสติกส์ และธุรกิจอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างราบรื่น ตลอดจนการควบคุมสิ่งแวดล้อมทั้งการใช้พลังงานหมุนเวียน และการบริหารจัดการน้ำและการบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรม รวมถึงทำเลยุทธศาสตร์บนพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย ซึ่งนับเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศที่ดึงดูดการลงทุนมูลค่ามหาศาลจากทั่วโลก
และเมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ไฮเออร์ แอพพลายแอนซ์ แมนูแฟคเจอร์ (ประเทศไทย) จํากัด ผู้ผลิตแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ได้วางศิลาฤกษ์เพื่อเตรียมการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศครบวงจรแห่งใหม่มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE3) ในจังหวัดชลบุรี โดยเมื่อก่อสร้างเสร็จ โรงงานแห่งนี้จะกลายเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศของไฮเออร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทําการผลิตเพื่อจัดจําหน่ายในประเทศไทยและส่งออกทั่วโลก ซึ่ง ณ ปัจจุบันการลงทุนภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอประกอบด้วย ธุรกิจยานยนตร์และชิ้นส่วน 31% ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค 18% ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 10%
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การที่บริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง ไฮเออร์ แอพพลายแอนซ์ แมนูแฟคเจอร์ (ประเทศไทย) เลือกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายฐานการผลิตในประเทศไทย นอกจากเป็นการยกระดับมาตรฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศให้สูงขึ้น ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในมาตรฐานการจัดการของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่มีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภคและการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งปัจจุบัน เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเฉพาะทางในหลาย ๆ ด้านจากผู้ผลิตชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์แห่งอนาคตและชิ้นส่วนประกอบยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอุปโภคและบริโภค พลาสติกและพอลิเมอร์ พลังงาน วัสดุก่อสร้าง โลจิสติกส์ การบินและอวกาศ
นายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เสริมว่า “ปัจจุบัน ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ WHAID พัฒนานิคมอุตสาหกรรม 13 แห่งในประเทศไทยและเวียดนาม มีพื้นที่รวมกว่า 77,600 ไร่ ทั้งนิคมฯที่ดำเนินการพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พร้อมด้วยบริการสาธารณูปโภคอย่างครบวงจร ทั้งบริการพลังงานไฟฟ้า บริการน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม และบริการบำบัดน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม และเราเป็นผู้บุกเบิกแนวคิด Smart ECO Industrial Estate หรือ นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์สำหรับโรงงานที่เน้นเครื่องจักรกลอัตโนมัติที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงตามมาตรฐานโลกอย่างโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศของไฮเออร์แห่งนี้”
นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE3) ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์บนพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย มีพื้นที่ทั้งหมด 2,198 ไร่ โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งสามารถเดินทางสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการขนส่งคมนาคมสำคัญ ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยมีระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 131 กิโลเมตร จากสนามบินสุวรรณภูมิ 109 กิโลเมตร จากท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง 46 กิโลเมตร และจากนิคมอุคสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ระยอง 10 กิโลเมตร โดย WHAID นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาช่วยปรับปรุงระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบอัจฉริยะที่ครอบคลุมการดำเนินการใน 8 ด้าน ได้แก่ การเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย การจัดการน้ำ การจัดการพลังงานและจัดหาพลังงานสีเขียว การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ระบบป้องกันด้านความปลอดภัย ระบบการขนส่ง ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบการก่อสร้างอาคาร ทั้งนี้การดำเนินการพัฒนาและจัดการบริหารเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์และเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการผลิตควบคู่ไปกับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยสอดคล้องกับพันธกิจ ของบริษัทฯ WHA: WE SHAPE THE FUTURE
ไฮเออร์เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลก 15 ปีซ้อน การเข้ามาลงทุนในประเทศไทยของไฮเออร์ครั้งสำคัญนี้ นอกจากสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและร่วมมือระหว่างประเทศจีนและไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระหว่างประเทศให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน ตลอดจนต่อยอดวิสัยทัศน์ของไฮเออร์ที่พร้อมจะเติบโตเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากล