Mr.Data
ภาพการเทิร์นอะราวด์ของ บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ALPHAX) เห็นได้อย่างชัดเจน จากผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2567 ที่พลิกมีกำไรกว่า 83.76 ล้านบาท เทียบสิ้นปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 109.57 ล้านบาท
จากความพยายามในการพลิกโฉมธุรกิจจากเดิมมีรายได้หลักจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจกัญชง-กัญชา และธุรกิจปาล์มน้ำมันสู่การสร้างโอกาสการเติบโตรอบใหม่ ผ่าน New S-Curve ในสปป.ลาว
เริ่มจากปี 2565 เข้าลงทุนในบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ในลาว พร้อมกับการรุกคืบเข้าสู่ธุรกิจเช่าสินเชื่อทองคำ ร่วมกับ “ร้านทองคำภูวง” ผู้ประกอบการร้านทองคำรายใหญ่ในลาว
ในปี 2566 เข้าลงทุนในบริษัท Simoung Express Loan Non Deposit Taking Microfinance Institutions Co.,Ltd. (SML) เพื่อรุกธุรกิจปล่อยสินเชื่อแก่รายย่อยแบบมีหลักประกันในลาว ซึ่งมีมูลค่าพอร์ตอยู่ที่ราว 2,176 ล้านกีบ
โดยในปี 2566 บริษัทฯเพิ่มทุนครั้งใหญ่กว่า 4 พันล้านบาท รองรับแผนการเติบโต เป้าหมายหลักรุกธุรกิจพลังงาน ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันในลาว
ผ่านการขายหุ้น PP ให้กับพันธมิตรในลาว จำนวน 2,562.5 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.13 บาท รวมเป็นเงินที่ได้จากการระดมทุน 2.89 พันล้านบาท และส่วนหนึ่งขาย RO ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 0.25 บาท
…หลังเพิ่มทุนสำเร็จ
ในเดือนมีนาคม 2567 บริษัทประกาศบิ๊กดีลทุ่มเงินลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ซื้อโรงไฟฟ้าเขื่อนน้ำฮุง 1 ในลาว ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี ซึ่งรับรู้รายได้ทันที และจะทำให้บริษัทมีรายได้จากการายไฟไม่ต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ตลอดอายุสัญญา หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 3 ล้านดอลลาร์/ปี
สเต็ปถัดมาในเดือนกรกฎาคม 2567 บอร์ดอนุมัติขายหุ้นธุรกิจอสังหาฯมูลค่า 778 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับแผนและยุทธ์ในการปรับโครงสร้างธุรกิจ ทำให้เห็นภาพชัดเจนในการเข้ารุกธุรกิจพลังงาน
”ธุรกิจพลังงานในลาวมีศักยภาพในการเติบโตสูงในอนาคต ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงและแน่นอน (Recuring Income) และมั่นใจว่าการดำเนินการครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นและสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว“ ธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ALPHAX ให้ความเห็น
ล่าสุด ALPHAX มีเงินสดเต็มหน้าตักกว่า 3.8 พันล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.04 เท่าพร้อมลุยขยายอาณาจักรโรงไฟฟ้าในลาว เพื่อสร้าง New S-Curve สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด
คงต้องติดตามตอนต่อไป ภายใต้แบ็คอัพที่แข็งแกร่ง อย่าง “เอกะพัน พะพิทัก” มหาเศรษฐีลาว ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และประธานบอร์ด จะออกสเต็ปแบบไหน เชื่อว่าที่เตรียมไว้ ไม่ธรรมดาแน่นอน!!!