กระดานข่าว

DOD เสริมพอร์ตความแข็งแกร่ง ล่าสุดกลุ่มแพทย์–คลินิกเสริมความงาม-คอสเมติคส์ จ่อสั่งออเดอร์เพียบ


02 กันยายน 2567

บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค หรือ DOD ส่งสัญญาณผลงานครึ่งปีหลังส่อแววคึกคัก หลังกระจายพอร์ตเพิ่มความหลากหลายในกลุ่มลูกค้าครบทุกมิติ โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ – เภสัช กลุ่มคอสเมติคส์ กลุ่มคลินิก เสริมความงาม ล่าสุดหัวกระไดไม่แห้ง จ่อรับออเดอร์ ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เข้ามาเฉลี่ย 60 - 70 SKUs ต่อเดือน มั่นใจปี 2567 โกยรายได้รวม 1,000 ล้านบาท

นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DOD (1).jpg

นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะยอดคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ผลิตผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร ยังคงมีแนวโน้มที่สดใสอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากยอดออเดอร์ที่เข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 60-70 SKUs แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์เดิมประมาณ 55-60 SKUs และผลิตภัณฑ์ใหม่ประมาณ 5-10 SKUs เป็นผลมาจากการขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ – เภสัช กลุ่มคอสเมติคส์ กลุ่มคลินิกเสริมความงาม ซึ่งกลุ่มดังกล่าวถือเป็นกลุ่มที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในพอร์ตของ DOD

การที่บริษัทฯ ได้รับออเดอร์จากกลุ่มทางการแพทย์ เป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพการเป็นผู้ผลิตที่มีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ของตนเองที่ค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมและพัฒนาสารสกัดพืชสมุนไพรที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันที รวมถึงกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพสูง ภายใต้มาตรฐานการผลิตระดับเดียวกับการผลิตยาตามมาตรฐานสากล อีกทั้งมีเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สามารถผลิตได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ กัมมี่ ชงดื่ม เม็ด เจลลี่ แคปซูล ตอกเม็ด โพรไบโอติค ซองกรอกปาก เป็นต้น

ปัจจุบันพอร์ตลูกค้าประมาณ 80% เป็นกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มแพทย์–เภสัช, กลุ่มคอสเมติคส์, กลุ่มคลินิกเสริมความงาม ส่วนอีก 20% เป็นกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียลฯ  ด้านความคิดและการตัดสินใจ และมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก

“ธุรกิจในครึ่งปีหลัง DOD ยังคงมุ่งเน้นดำเนินการในธุรกิจหลัก (Core Business) ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ  โดยล่าสุดได้มีการลงทุนซื้อเครื่องจักร 2 เครื่อง ได้แก่ 1.เครื่องจักรผลิตผลิตภัณฑ์รูปแบบกัมมี่ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย และมีกำลังการผลิตเฉลี่ยสูงถึง 1 ล้านชิ้นต่อเดือน เพื่อซัพพอร์ตลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเครื่องจักรจะเข้ามาในไตรมาส 4/2567 นี้ และจะเริ่มมีรายได้จากการผลิตกัมมี่เข้ามาในช่วงปลายปี 2567 ทันที สำหรับเครื่องจักรดังกล่าวมีกำลังผลิตสูง ผลิตได้เร็วขึ้น ทำให้ปริมาณการผลิตทำได้มากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง” 

สำหรับปีนี้คาดว่า รายได้จากฐานการผลิต (Production Base) ประมาณ 500-600 ล้านบาท และรายได้จากฐานการค้าปลีก (Retail Base) ประมาณ 400-500 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL) ซึ่งดำเนินการจำหน่ายสินค้าภายใต้ แบรนด์ “Auswelllife” นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย จะมีรายได้ประมาณ 300-350 ล้านบาท และบริษัท เอ เมตาเวิร์ส จำกัด (AMV) จะมีรายได้ประมาณ 60-70 ล้านบาท รวมทั้ง 2 ฐานธุรกิจแล้ว ปีนี้มีรายได้รวมน่าจะประมาณ 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ จากการปรับโครงสร้างกิจการ (Restructure Business) โดยการหยุดดำเนินงานบริษัทย่อย คือ บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด ที่มีผลขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการขายทรัพย์สินของบริษัทย่อยทั้ง  2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด และบริษัท พีซ๊ซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด ส่งผลให้กลุ่มบริษัทจะมีกระแสเงินสดรับเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว

DOD