จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : TFG แนวโน้มครึ่งปีหลังยังสดใส โบรกฯแห่แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 5 บาท
03 กันยายน 2567
สถานการณ์แนวโน้มราคาทั้งหมูและไก่ครึ่งปีหลังยังอยู่ในระดับสูง หลังเจาะตลาดส่งออกใหม่ และปัญหาการลักลอบนำเข้าลดลง หนุนผลประกอบการ บมจ.ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป (TFG) กำไรเติบโต โบรกเกอร์แนะนำ “ซื้อ”
โดยบล.ทิสโก้ วิเคราะห์ราคาหุ้น บมจ.ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป (TFG) โดยยังคงประมาณการเดิมจากธุรกิจสุกรที่กลับมาฟื้นตัวและอัตรามาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มไตรมาส 3/67 เราคาดจะดีขึ้นต่อเนื่องจากธุรกิจไก่และสุกรดีขึ้น ราคาสุกรที่เริ่มฟื้น ตัวทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม เรายังคงประมาณการเดิมปี 67-68 คาดกำไรสุทธิเติบโต จากธุรกิจสุกรที่ดีขึ้นในไทยและเวียดนาม และการขยายร้านค้าปลีก
1) ธุรกิจสุกรดีขึ้น คาดรายได้ธุรกิจสุกรเพิ่มขึ้น 9% และปีถัดไปเพิ่มขึ้นปีละ 5% คาดราคาขายเฉลี่ยที่ 70 บาท/กก. และปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ธุรกิจสุกรในเวียดนาม บริษัทมีการขยายกำลังการผลิตในช่วงปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเริ่มเก็บเกี่ยวรายได้ในปีนี้ (สัดส่วนรายได้ปีนี้ 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา 7% และปีหน้าจะเป็น 12-13% ของรายได้รวม) ราคาเวียดนามเพิ่มขึ้นจากปัญหาโรค ASF ระบาด
2) ธุรกิจไก่ดีขึ้นจากต้นทุนภาพรวมอุตสาหกรรมกรรมไก่ demand และ supply ในประเทศทรงตัว เราคาดธุรกิจไก่ของ TFG เติบโต 4% และปีถัดไปเพิ่มขึ้น 2% ราคาขายเฉลี่ยของในประเทศและส่งออก 59 บาท/กก. คาดการส่งออกปีนี้ 9 หมื่นตัน แบ่งเป็นญี่ปุ่นจากเนื้อดิบเป็นหลัก, จีนเติบโตจากชิ้นส่วนไก่และกลุ่มยุโรปเติบโตจากเนื้อไก่แปรรูปเป็นหลัก
3) ร้านค้าปลีกปีนี้สาขาเพิ่มขึ้น 50 สาขา (สิ้นปี2023 มีสาขา 350 สาขา) คาดรายได้ 2 หมื่นล้านบาท จากปี2023 อยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท แนวโน้มต้นทุนอาหารสัตว์เริ่มลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มผลประกอบการที่ฟื้นตัวแรงจากธุรกิจสุกรเป็นหลักและต้นทุนที่ลดลงทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.15 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ย13 เท่า โดยราคาปัจจุบันมีระดับPER24F ที่ 10.1X, Dividend Yield 24F อยู่ที่ 4.9% ความเสี่ยง : โรคระบาด, ต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น
สอดคล้องกับมุมมองบล.ทรีนีตี้ ที่ระบุว่า TFG ประกาศกําไรสุทธิไตรมาส 2/67 ที่ 855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 392% จากไตรมาสก่อนและ 1143% จากปีก่อน โดยเป็นการฟื้นตัวจากธุรกิจหลัก ทั้งในส่วนของรายได้ที่เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และ 15% จากปีก่อน
และอัตรากําไรขั้นต้นที่อยู่ที่ 14.4% จาก 8.6% ในไตรมาส 1/67 และ 9.5% ในไตรมาส 2/66 เนื่องจากราคาสัตว์บกในไตรมาส 2/67 ปรับตัวดีขึ้น โดยข้อมูลจากกรมการค้าภายใน ราคาไก่หน้าฟาร์มเฉลี่ยปรับตัวขึ้นราว 8.5% จากไตรมาสก่อน และ 2.1% จากปีก่อน จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดตลาดส่งออกไปยังประเทศใหม่ๆ
ขณะที่ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับตัวขึ้น4.4% จากไตรมาสก่อน แม้ยังอ่อนตัว 12.8% จากปีก่อน โดยปัญหาการลักลอบนําเข้าเริ่มลดลงหลังมีการเร่งปราบปราม นอกจากนี้รายได้จากธุรกิจค้าปลีก (ภายใต้ Thaifoods Fresh Market) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นราว 96 bps QoQ มาอยู่ที่ราว 37% ของรายได้รวม ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทมีการขยายสาขาร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นจาก 1Q67 ราว 14 สาขา ทําให้มีสาขารวม 364 สาขา ณ สิ้น 2Q67
ทั้งนี้คาดแนวโน้มครึ่งหลังปี 67 จะโตดีกว่าครึ่งปีแรก โดยยังคงประมาณการกําไรปี 2567 ที่ 1,943 ล้านบาท (พลิกจากที่ขาดทุนในปี 2566) โดยกําไรงวดครึ่งแรกปี 67 คิดเป็นราว 53% ของประมาณการทั้งปี ซึ่งมีโอกาสที่เราจะปรับเพิ่มประมาณการกําไร
เนื่องจากแนวโน้มราคาสัตว์บกในครึ่งปีหลังยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในส่วนของราคาหมู ณ กลางเดือน ส.ค.อยู่ที่ราว 73-74 บาท/กก. ดีขึ้นจากค่าเฉลี่ย ไตรมาส 2/67 ที่ราว 69 บาท/กก.
ขณะที่ราคาไก่ยังทรงตัวในระดับ สูงที่ราว 43-44 บาท/กก. โดยปัจจัยบวกด้านการส่งออกไก่ และการลดอุปทานหมูในประเทศ ทําให้เราคาดแนวโน้มราคาทั้งหมูและไก่จะสามารถยืนในระดับสูงต่อเนื่องได้ในครึ่งหลังปี 67
เริ่มเห็น Upside หลังปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 5 บาท อิง PER 12 เท่า โดยราคาปัจจุบันยังมีUpsideบวกกับมีโอกาสที่เราจะปรับประมาณการขึ้น ทําให้เราปรับคําแนะนําเป็น “ซื้อ”
โดยบล.ทิสโก้ วิเคราะห์ราคาหุ้น บมจ.ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป (TFG) โดยยังคงประมาณการเดิมจากธุรกิจสุกรที่กลับมาฟื้นตัวและอัตรามาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มไตรมาส 3/67 เราคาดจะดีขึ้นต่อเนื่องจากธุรกิจไก่และสุกรดีขึ้น ราคาสุกรที่เริ่มฟื้น ตัวทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม เรายังคงประมาณการเดิมปี 67-68 คาดกำไรสุทธิเติบโต จากธุรกิจสุกรที่ดีขึ้นในไทยและเวียดนาม และการขยายร้านค้าปลีก
1) ธุรกิจสุกรดีขึ้น คาดรายได้ธุรกิจสุกรเพิ่มขึ้น 9% และปีถัดไปเพิ่มขึ้นปีละ 5% คาดราคาขายเฉลี่ยที่ 70 บาท/กก. และปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ธุรกิจสุกรในเวียดนาม บริษัทมีการขยายกำลังการผลิตในช่วงปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเริ่มเก็บเกี่ยวรายได้ในปีนี้ (สัดส่วนรายได้ปีนี้ 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา 7% และปีหน้าจะเป็น 12-13% ของรายได้รวม) ราคาเวียดนามเพิ่มขึ้นจากปัญหาโรค ASF ระบาด
2) ธุรกิจไก่ดีขึ้นจากต้นทุนภาพรวมอุตสาหกรรมกรรมไก่ demand และ supply ในประเทศทรงตัว เราคาดธุรกิจไก่ของ TFG เติบโต 4% และปีถัดไปเพิ่มขึ้น 2% ราคาขายเฉลี่ยของในประเทศและส่งออก 59 บาท/กก. คาดการส่งออกปีนี้ 9 หมื่นตัน แบ่งเป็นญี่ปุ่นจากเนื้อดิบเป็นหลัก, จีนเติบโตจากชิ้นส่วนไก่และกลุ่มยุโรปเติบโตจากเนื้อไก่แปรรูปเป็นหลัก
3) ร้านค้าปลีกปีนี้สาขาเพิ่มขึ้น 50 สาขา (สิ้นปี2023 มีสาขา 350 สาขา) คาดรายได้ 2 หมื่นล้านบาท จากปี2023 อยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท แนวโน้มต้นทุนอาหารสัตว์เริ่มลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มผลประกอบการที่ฟื้นตัวแรงจากธุรกิจสุกรเป็นหลักและต้นทุนที่ลดลงทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.15 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ย13 เท่า โดยราคาปัจจุบันมีระดับPER24F ที่ 10.1X, Dividend Yield 24F อยู่ที่ 4.9% ความเสี่ยง : โรคระบาด, ต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น
สอดคล้องกับมุมมองบล.ทรีนีตี้ ที่ระบุว่า TFG ประกาศกําไรสุทธิไตรมาส 2/67 ที่ 855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 392% จากไตรมาสก่อนและ 1143% จากปีก่อน โดยเป็นการฟื้นตัวจากธุรกิจหลัก ทั้งในส่วนของรายได้ที่เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และ 15% จากปีก่อน
และอัตรากําไรขั้นต้นที่อยู่ที่ 14.4% จาก 8.6% ในไตรมาส 1/67 และ 9.5% ในไตรมาส 2/66 เนื่องจากราคาสัตว์บกในไตรมาส 2/67 ปรับตัวดีขึ้น โดยข้อมูลจากกรมการค้าภายใน ราคาไก่หน้าฟาร์มเฉลี่ยปรับตัวขึ้นราว 8.5% จากไตรมาสก่อน และ 2.1% จากปีก่อน จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดตลาดส่งออกไปยังประเทศใหม่ๆ
ขณะที่ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับตัวขึ้น4.4% จากไตรมาสก่อน แม้ยังอ่อนตัว 12.8% จากปีก่อน โดยปัญหาการลักลอบนําเข้าเริ่มลดลงหลังมีการเร่งปราบปราม นอกจากนี้รายได้จากธุรกิจค้าปลีก (ภายใต้ Thaifoods Fresh Market) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นราว 96 bps QoQ มาอยู่ที่ราว 37% ของรายได้รวม ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทมีการขยายสาขาร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นจาก 1Q67 ราว 14 สาขา ทําให้มีสาขารวม 364 สาขา ณ สิ้น 2Q67
ทั้งนี้คาดแนวโน้มครึ่งหลังปี 67 จะโตดีกว่าครึ่งปีแรก โดยยังคงประมาณการกําไรปี 2567 ที่ 1,943 ล้านบาท (พลิกจากที่ขาดทุนในปี 2566) โดยกําไรงวดครึ่งแรกปี 67 คิดเป็นราว 53% ของประมาณการทั้งปี ซึ่งมีโอกาสที่เราจะปรับเพิ่มประมาณการกําไร
เนื่องจากแนวโน้มราคาสัตว์บกในครึ่งปีหลังยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในส่วนของราคาหมู ณ กลางเดือน ส.ค.อยู่ที่ราว 73-74 บาท/กก. ดีขึ้นจากค่าเฉลี่ย ไตรมาส 2/67 ที่ราว 69 บาท/กก.
ขณะที่ราคาไก่ยังทรงตัวในระดับ สูงที่ราว 43-44 บาท/กก. โดยปัจจัยบวกด้านการส่งออกไก่ และการลดอุปทานหมูในประเทศ ทําให้เราคาดแนวโน้มราคาทั้งหมูและไก่จะสามารถยืนในระดับสูงต่อเนื่องได้ในครึ่งหลังปี 67
เริ่มเห็น Upside หลังปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 5 บาท อิง PER 12 เท่า โดยราคาปัจจุบันยังมีUpsideบวกกับมีโอกาสที่เราจะปรับประมาณการขึ้น ทําให้เราปรับคําแนะนําเป็น “ซื้อ”