จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : SFLEX เดินถูกทางผลิต ”Flexible packaging” หนุนกำไรโตออลไทม์ไฮ 7 ไตรมาส
03 กันยายน 2567
ผลจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงและการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมทุน ผลักดันผลงาน บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) เติบโตทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง 7 ไตรมาส
บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) โชว์ผลงานไตรมาส 2/67 กำไรทำออลไทม์ไฮ 7 ไตรมาสต่อเนื่อง หลังบริหารจัดการต้นทุนและกระบวนการผลิตดีเยี่ยม โดย “ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 458 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้นจำนวน 111.9 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.7% ใกล้เคียงกับอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2566 ที่ 24.9%
ขณะเดียวกันบริษัทฯ กำไรสุทธิ 65.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิสำหรับไตรมาสอยู่ที่ 14.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนทำได้อยู่ที่ 10.8% ซึ่งอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ผลกำไรในไตรมาส 2/2567 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน เป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ประกอบกับมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมจำนวน 5.4 ล้านบาท อีกทั้ง บริษัทฯ ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI
ด้านบล.เคจีไอ คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/67 ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากส่วนแบ่งกำไรโครงการ JV กับ SCGP ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/67 ธุรกิจหลักคาดว่าจะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ คาดว่าความต้องการใช้ Flexible packaging จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/67-ไตรมาส 1/68 จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะหนุนการซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคในประเทศ
นอกจากนี้ คาดว่าความต้องการ Flexible packaging ที่ใช้วัตถุดิบแบบ Mono-material ซึ่งสามารถรีไซเคิลได้ จะเพิ่มขึ้นอย่างมากใน 2568F เนื่องจากองค์กร Circular Economy for Flexible Packaging (CEFLEX) ตั้งเป้าให้ผลิตภัณฑ์ Flexible packaging ในยุโรป 100% สามารถรีไซเคิลได้ภายในปี 2568
ปัจจุบัน SFLEX ผลิต Flexible packaging ที่รีไซเคิลได้ประมาณ 20% ของการผลิตทั้งหมด เราคาดว่าลูกค้าของ SFLEX ที่เป็นบริษัทข้ามชาติจะเพิ่มคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้อย่างรวดเร็วในปี 2568 ซึ่งจะส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของ Flexible packaging ที่รีไซเคิลได้มักจะสูงกว่าแบบปกติ
โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” SFLEX ด้วยราคาเป้าหมาย 5.8 บาท อิง Forward PE 20 เท่า ทั้งนี้ Forward PE ปัจจุบันต่ำเพียง 12.4 เท่า ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 ดีกว่าคาด และคาด Earnings momentum จะยังดีต่อในไตรมาส 3/67 - ไตรมาส 4/67 ทั้งนี้ประมาณการกำไรปัจจุบันของเราที่ 238 ล้านบาทมี Upside เนื่องจากกำไรครึ่งแรกปี 67 คิดเป็น 54% ของประมาณการทั้งปี
บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) โชว์ผลงานไตรมาส 2/67 กำไรทำออลไทม์ไฮ 7 ไตรมาสต่อเนื่อง หลังบริหารจัดการต้นทุนและกระบวนการผลิตดีเยี่ยม โดย “ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 458 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้นจำนวน 111.9 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.7% ใกล้เคียงกับอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2566 ที่ 24.9%
ขณะเดียวกันบริษัทฯ กำไรสุทธิ 65.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิสำหรับไตรมาสอยู่ที่ 14.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนทำได้อยู่ที่ 10.8% ซึ่งอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ผลกำไรในไตรมาส 2/2567 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน เป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ประกอบกับมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมจำนวน 5.4 ล้านบาท อีกทั้ง บริษัทฯ ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI
ด้านบล.เคจีไอ คาดการณ์แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/67 ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากส่วนแบ่งกำไรโครงการ JV กับ SCGP ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/67 ธุรกิจหลักคาดว่าจะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ คาดว่าความต้องการใช้ Flexible packaging จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/67-ไตรมาส 1/68 จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะหนุนการซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคในประเทศ
นอกจากนี้ คาดว่าความต้องการ Flexible packaging ที่ใช้วัตถุดิบแบบ Mono-material ซึ่งสามารถรีไซเคิลได้ จะเพิ่มขึ้นอย่างมากใน 2568F เนื่องจากองค์กร Circular Economy for Flexible Packaging (CEFLEX) ตั้งเป้าให้ผลิตภัณฑ์ Flexible packaging ในยุโรป 100% สามารถรีไซเคิลได้ภายในปี 2568
ปัจจุบัน SFLEX ผลิต Flexible packaging ที่รีไซเคิลได้ประมาณ 20% ของการผลิตทั้งหมด เราคาดว่าลูกค้าของ SFLEX ที่เป็นบริษัทข้ามชาติจะเพิ่มคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้อย่างรวดเร็วในปี 2568 ซึ่งจะส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของ Flexible packaging ที่รีไซเคิลได้มักจะสูงกว่าแบบปกติ
โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” SFLEX ด้วยราคาเป้าหมาย 5.8 บาท อิง Forward PE 20 เท่า ทั้งนี้ Forward PE ปัจจุบันต่ำเพียง 12.4 เท่า ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 ดีกว่าคาด และคาด Earnings momentum จะยังดีต่อในไตรมาส 3/67 - ไตรมาส 4/67 ทั้งนี้ประมาณการกำไรปัจจุบันของเราที่ 238 ล้านบาทมี Upside เนื่องจากกำไรครึ่งแรกปี 67 คิดเป็น 54% ของประมาณการทั้งปี