จิปาถะ

เคล็ดลับ เขียน Resume สมัครงานยังไงให้ถูกใจ Hr


06 กันยายน 2567
เคล็ดลับ copy.jpg

จากการแข่งขันที่มีมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ยุคของเด็ก Gen Z และเด็กที่เรียนจบมาใหม่หลาย ๆ คนจำเป็นที่จะต้องหางานดี ๆ จึงทำให้ เรซูเม่ (Resume) สมัครงาน หรือใบแนะนำตัวการสมัครงาน นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องเอาใจใส่ และต้องพรีเซนต์เกี่ยวกับตัวเองออกมาให้ดีที่สุดเพื่อที่จะสามารถพิชิตใจ HR ของแต่ละบริษัท ในแต่ละที่ได้นั่นเอง และวันนี้เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ ในการทำ เรซูเม่ (Resume) สมัครงานมาฝากกัน ใครที่กำลังต้องสมัครงานเร็ว ๆ นี้มาดูกันได้เลย

Resume คืออะไร? ทำไมเราต้องให้ความใส่ใจในการสมัครงาน

สำหรับเรซูเม่ (Resume) คือ ประวัติส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่จะนำไปใช้ในการนำเสนอ พรีเซนต์เกี่ยวกับตัวเองเพื่อการสมัครงาน โดยในปัจจุบันนับว่าเรซูเม่มีอยู่ด้วยกันทั้งรูปแบบที่เป็นรูปเล่ม และออนไลน์ รวมถึงการทำแฟ้มสะสมผลงาน (Porfolio) ที่ใช้เก็บรวบรวมผลงานของเรา ยื่นประกอบเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้เราโดดเด่นกว่าผู้สมัครรายอื่น ๆ แต่เราจะใส่ข้อมูลอะไรลงไปบ้างในเรซูเม่ มาดูไอเดียดี ๆ กันเลย

tips-create-resume-get-dream-work-image02.webp

1. ใช้เทคนิคจัด Layout ให้ Resume อ่านง่ายสบายตา

เป็นธรรมดาที่ทาง HR ในหลายบริษัทจะต้องใช้เวลาในการคัดเลือกเรซูเม่ สมัครงานค่อนข้างนานเพราะการเปิดรับสมัครงานสัก 1 ตำแหน่ง จำนวนใบสมัครงานของผู้สมัครคงมีมากมาย หากจะให้ HR สนใจและอ่านข้อมูลของเราในเรซูเม่ resume ได้แบบครบถ้วน และเข้าใจทั้งหมด

น้อง ๆ จบใหม่ควรให้ความสำคัญกับการจัด Layout เรซูเม่ สมัครงานให้ดี ดังนี้

1. การแบ่งหมวดหมู่ของข้อมูล ประวัติ และผลงานที่ผ่านมาของเราให้เป็นระเบียบ
2. เลือกใช้ฟ้อนท์ให้ที่อ่านง่ายโดยหัวข้อหลักให้ใช้เป็นตัวหนา และข้อมูลภายในใช้เป็นฟ้อนท์ตัวบางธรรมดา พยายามอย่าใช้สีฟ้อนท์ที่อ่านยาก หรือเป็นสีสัน ควรใช้เป็นฟ้อนท์สีดำธรรมดา จะช่วยให้ HR อ่านเรซูเม่ สมัครงานของเราได้ง่าย

2. ระบุ Soft Skills ที่โดดเด่นของตัวเราเอง

Soft Skills เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่ถูกนำมาเป็นตัวเลือก เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับเรซูเม่ (Resume) สมัครงานของเราอย่างหลายบริษัทดัง ก็ให้ความสำคัญไม่น้อยกับ Soft Skills

เราสามารถใส่ Soft Skills ผ่านรายละเอียดงานที่เราเคยทำในเรซุเม่ (resume) เช่น ประสานงานร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งด้านธุรกิจ และผู้พัฒนาโปรแกรม ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่าเราสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้หรือทำงานเป็นทีมได้ หรือการใช้ AI Chat GPT เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีกว่าเดิม ซึ่งแสดงถึงทักษะการปรับตัวกับสิ่งใหม่ ๆ ตั้งแต่โลกเราเจอสถานการณ์โรคระบาด เรื่องของการทำงานของผู้คนเปลี่ยนไป ทั้งรูปแบบการทำงาน รวมถึงเครื่องมือการทำงานที่มีเทคโนโลยีต่าง ๆ หากเราสามารถเรียนรู้ และปรับตัวกับการทำงานรูปแบบใหม่ ๆ ได้ไว เชื่อเลยว่า HR ที่ไหนก็คงอยากได้ตัวเราเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแน่ ๆ

3. เน้นใส่ Keyword ที่ HR สนใจในตำแหน่งงานนั้น ๆ ลงในเรซูเม่ (resume)

การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสายงานจะช่วยให้ HR พิจารณาเรซูเม่สมัครงานได้รวดเร็วเหมือนกัน เพราะจำนวนใบสมัครงานที่เข้ามาเยอะในแต่ละวัน HR จะใช้วิธีเลือกอ่านแบบไว ๆ

ยกตัวอย่าง หากเราสมัครงานในตำแหน่งที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลดาต้าต่าง ๆ ก็ควรเลือกใช้คีย์เวิร์ดในเรซูเม่สมัครงาน เช่นคำว่า Data Analysis, Power BI, Google Analytics หรือ Analyze, Develop dashboard เป็นต้น

หาก HR อ่านเรซูเม่ของเราแบบไว ๆ เจอคีย์เวิร์ดเหล่านี้เข้าไปจะเข้าใจได้ทันทีว่า เรซูเม่สมัครงานของเรามีคุณสมบัติแบบที่บริษัทกำลังตามหาอยู่นั่นเอง

4. มีประสบการณ์ทำงานจริง ช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับตัวเรา

แม้ว่าหลาย ๆ คนจะอาจจะคิดว่าในตอนที่ทำการศึกษาอยู่ เราจะเอาประสบการณ์มาจากไหน แต่มีนักศึกษาที่จบใหม่ ๆ หลายคนสามารถสมัครงานได้ผ่านฉลุยจากการที่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อนนั่นเอง จะให้ดีน้อง ๆ อาจเลือกฝึกได้ ในสายงานที่เกี่ยวข้อง และพยายามเลือกฝึกบริษัทที่มีชื่อเสียงสักหน่อย จะได้เป็นเครื่องการันตี เพิ่มความน่าสนใจให้เรซูเม่สมัครงานของเรา

และในช่วงฝึกงาน หากเราได้มีส่วนร่วมในการทำโปรเจ็กต์อะไรก็อย่าลืมใส่ข้อมูลลงไปในเรซูเม่สมัครงานด้วย เพื่อที่จะได้เป็นหลักฐานว่าตัวเราก็มีประสบการณ์ในงานนั้นจริง ๆ สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่ยังเรียนไม่จบ หรือมีเวลาว่างในช่วงปิดเทอม ก็สามารถยื่นขอฝึกงานได้ เมื่อถึงเวลาใกล้เรียนจบ จะได้เซฟเวลาในการหางานลงไปได้อีกเยอะ

5. กิจกรรมนอกห้องเรียนก็สำคัญ ช่วยเพิ่มคะแนนจาก HR

นอกเหนือจากเรื่องการเรียนแล้ว เรื่องของกิจกรรมก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการทำจิตอาสา บำเพ็ญประโยชน์ หรือการไปเข้าร่วมแข่งขันต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานภาครัฐ หรือเอกชน ที่เกี่ยวข้องกับสายงาน โดยควรใส่กิจกรรมที่ได้เข้าร่วมให้มีความหลากหลาย

หรืออาจเป็นเรื่องอื่น ๆ ที่เราได้รับรางวัล เกียรติบัตร ก็สามารถนำมาใส่ไว้ในเรซูเม่สมัครงานได้เลย เพราะการได้รับรางวัล หรือมีประสบการณ์เข้าร่วมแบบนี้ รับรองได้เลยว่าเราจะได้รับการพิจารณาจาก HR ของบริษัทเป็นพิเศษ

นอกจากจะมีสิ่งที่ควรเขียนลงไปในเรซูเม่แบบนี้แล้ว บางเรื่องก็ไม่ควรที่จะเขียนเข้าไป เพราะบางข้อมูลที่มากเกินความจำเป็นนั้น ก็อาจจะทำให้เรซูเม่สมัครงานดูรก และไม่น่าสนใจได้

4 เรื่องที่ไม่ควรทำหรือใส่ไว้ในเรซูเม่ (resume) สมัครงาน

1. ความฝันส่วนตัวในอนาคต ไม่ต้องบอกใครก็ได้

ความฝันส่วนตัวที่เราต้องการทำในอนาคต เช่น มีฝันไปเรียนต่อต่างประเทศภายใน 2-3 ปี หรืออยากมีธุรกิจส่วนตัว เป็นนายตัวเอง ใน 2 ปี อาจต้องหลีกเลี่ยงข้อมูลเหล่านี้ไว้ในเรซูเม่สมัครงานจะดีกว่า เพราะข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้สื่อถึงเรื่องของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือเป็นประโยชน์ต่อองค์กรที่พิจารณารับสมัครงานแต่อย่างใด หากแต่เป็นการเขียนลงไปเพื่อทำให้เรซูเม่สมัครงานดูไม่โล่งก็เท่านั้นเอง นอกจากนี้ทางผู้สัมภาษณ์จะคิดได้ว่าคุณอาจอยู่ในองค์กรได้ไม่นาน

2. เขียนในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง หรือแต่งเรื่อง เพื่อให้ HR สนใจ

การเขียนสิ่งที่ไม่เป็นความจริง เช่น ภาษา และสกิลต่าง ๆ ที่ตัวเราไม่สามารถทำได้จริง หากวันหนึ่งคุณถูกเรียกสัมภาษณ์ขึ้นมา ผู้สัมภาษณ์จะรู้ได้ทันทีว่าเรื่องที่เขียนในเรซูเม่สมัครงานเป็นเรื่องโกหก ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเราดูไม่ดี และอาจทำให้เราเสียงานในฝันไปอย่างง่ายดาย ถึงแม้เราจะมีความสามารถน้อย หรือขาดประสบการณ์ แต่การใส่ข้อมูลจริงไปจะดีกับตัวเราที่สุด เพราะเราไม่

3. เรียกเงินเดือนสูงเว่อร์ อาจโดนมองข้ามง่าย ๆ

ไม่ควรเขียนเงินเดือนที่ต้องการลงไปในเรซูเม่สมัครงาน ยกเว้น การกรอกข้อมูลในระบบ HR ของบริษัทที่เราสมัครงาน เป็นที่ทราบกันดีว่าการกำหนดฐานเงินเดือนพนักงานจะต้องพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย ควรเก็บเรื่องเงินเดือนไว้ต่อรองเมื่อถูกเรียกสัมภาษณ์งานจะเหมาะสมกว่า

4. ตกแต่งเรซูเม่สมัครงานแบบเน้นดีไซน์มากเกินไป

น้อง ๆ หลายคนมักคิดว่าต้องออกแบบเรซูเม่สมัครงานให้สวย หรือมีดีไซน์ล้ำ ๆ เพื่อสร้างความโดดเด่นแต่การทำแบบนี้อาจทำให้เราพลาดงานในฝันไปได้แบบง่าย ๆ

HR ส่วนใหญ่มักไม่ได้พิจารณาใบสมัครงานจากความสวยงามเพียงอย่างเดียว บางคนก็ดีไซน์เรซูเม่ (resume) สมัครงานจนทำให้ข้อมูลต่าง ๆ อ่านแล้วเข้าใจยากนั่นเอง เช่น การใส่ค่าพลังในสกิลการทำงาน หรือการใส่ตัวเลขบอกระดับสกิลของตัวเรา ดังนั้นหากใครอยากให้เรซูเม่ สมัครงานของเราถูกพิจารณา ลองออกแบบเรซูเม่ให้มีความทางการ และใส่ข้อมูล และรายละเอียดของตัวเราเองให้ครบ ทำง่าย ๆ แบบนี้ HR ของบริษัทอ่านง่าย และเข้าใจข้อมูลของเราได้แบบรวดเร็ว มีโอกาสได้งานมีสูงเลยล่ะ

แน่นอนว่าในยุคนี้นอกจากเรื่องของการหางานจะมีความยากลำบากมากยิ่งขึ้นแล้ว เรื่องของการบริหารเงินเดือนของเด็กจบใหม่ นั้นยากยิ่งกว่า และทางออกสำหรับการบริหารเงินที่ดีสำหรับน้อง ๆ ในวัยนี้นั่นก็คือการ “ออมเงิน” นั่นเอง และจะออมเงินไว้ที่ไหนดีให้เงินได้งอกเงยมีไว้ใช้ในอนาคต เราจึงอยากมาแนะนำแอปฯ ตัวหนึ่งที่เรียกได้ว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเก็บออมเงินของคุณได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือแอปฯ Kept จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ที่มา : https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/tips-create-resume-get-dream-work