Talk of The Town

สแกน 20 หุ้นเป้า เม็ดเงิน “กองทุนวายุภักษ์” ไหลเข้า ลุ้น SCB เงินเข้ามากสุดกว่า 3.7 หมื่นลบ.


10 กันยายน 2567

เป็นที่ชัดเจนแล้ว สำหรับกองทุนวายุภักษ์ โดยเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุน ส่วนใหญ่จะนำไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนของกองทุนฯ แต่ละปี จะจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. ในรูปแบบเงินปันผลตามผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนฯ ในอัตราไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี แต่ไม่เกินกว่า 9% ต่อปี

สแกน 20 หุ้นเป้า_S2T (เว็บ) copy.jpg

ทั้งนี้กองทุนฯ จะเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ที่ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่าประมาณ 1 – 1.5 แสนล้านบาท โดยแบ่งผู้ลงทุนเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 

กลุ่มที่ 1 ผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศ เบื้องต้นได้กำหนดสัดส่วนการเสนอขายหน่วยลงทุน แก่ผู้ลงทุนกลุ่มนี้ 3 – 5 หมื่นล้านบาท และ กลุ่มที่ 2 ผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลเฉพาะกลุ่ม อีกประมาณ 1– 1.2 แสนล้านบาท 

โดยเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อวันที่ 16 – 20 กันยายน 2567 จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หน่วย หรือ 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นครั้งละ 100 หน่วย หรือ 1,000 บาท โดยจะจัดสรรด้วยวิธี Small Lot First  ซึ่งผู้จองซื้อทุกรายจะมีโอกาสในการได้รับจัดสรรหน่วยลงทุนเท่ากัน และคาดว่าจะนำหน่วยลงทุน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในเดือนตุลาคมนี้

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์จะผลักดันต่อ SET ได้ราว 150-200 จุด หุ้นที่ได้ประโยชน์หลายบริษัทได้ปรับขึ้นไปแรง 

ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์จึงเลือกหุ้นที่คาดมีเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ เข้าหนุนแต่ตลาดยังมองข้าม โดยใช้เกณฑ์คัดกรอง YTD Return <0 , SET ESG Rating สูงกว่า AA , อัตราปันผลไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี, กำไรปี 67-68 เติบโต และคาดเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์เมื่อเทียบกับมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยมากกว่า 1 เท่า ซึ่งจะได้ 4 หุ้นเด่นรอบนี้ ประกอบด้วย BCP HMPRO CPN และ BBL

สำหรับ คาดการณ์เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ไหลเข้าหุ้น 20 อันดับแรก บนสมมุติฐานเม็ดเงินเข้ากองทุนวายุภักษ์ 1.5 แสนล้านบาท มีรายละเอียดผ่านดังนี้

สแกน 20 หุ้นเป้า_S2T (เพจ) copy.jpg