รายงานพิเศษ : ธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตเท่าก่อนโควิด ติดปีก ASIA ผลงานสดใส
ธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตก้าวกระโดด Krungthai COMPASS คาดรายได้ของธุรกิจโรงแรมปี 67-68 มีมูลค่าราว 9.0 และ 9.6 แสนล้านบาท สอดคล้องกับผลสำรวจของอโกด้าที่ไทยติดหนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางที่อยากกลับไปเยือนซ้ำ หนุนผลงานบมจ.เอเชียโฮเต็ล (ASIA) ปีนี้กลับมาแข็งแกร่ง
Krungthai COMPASS ประเมินว่า รายได้ของธุรกิจโรงแรมในปี 2567-2568 จะมีมูลค่าราว 9.0 และ 9.6 แสนล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ที่อัตราการเข้าพัก (OR) และราคาห้องพัก (ADR) ฟื้นตัวกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงปี 2562 แล้ว ส่งผลให้รายได้รวมของธุรกิจโรงแรมในปี 2567 มีแนวโน้มกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด
แต่ก็มี 3 โจทย์ท้าทายที่กดดันผลประกอบการของธุรกิจโรงแรมในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ได้แก่
1) การแข่งขันในธุรกิจโรงแรมที่ยังคงทวีความรุนแรง จากจำนวนห้องพักที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2) จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยเฉพาะกลุ่มกรุ๊ปทัวร์
3) ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง เช่น ค่าแรง ค่าพลังงาน รวมถึงต้นทุนทางการเงิน
ขณะที่ อโกด้า (Agoda) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่อยากกลับไปเยือนซ้ำ (Return Visitor Ranking) ผลปรากฏว่า ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย ขึ้นแท่นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวอยากกลับไปเยือนซ้ำมากที่สุด
โดยผลสำรวจดังกล่าวระบุว่า นักท่องเที่ยว 75% กลับไปเที่ยวซ้ำหากเคยไปแล้วชอบ โดยมากกว่าครึ่งของนักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวที่เดิมซ้ำ 1-3 ครั้งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่นักท่องเที่ยว 23% กลับไปเที่ยวซ้ำอย่างน้อย 10 ครั้งในช่วงเวลาเดียวกัน
สำหรับปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องการเที่ยวซ้ำนั้น การผจญภัย (27%) เป็นจุดประสงค์หลัก ขณะที่ 26% เลือกไปเที่ยวเพราะอาหารอร่อย และ 23% ต้องการพบปะครอบครัว/เพื่อนฝูง
ขณะเดียวกัน ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องการกลับไปเยือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทยอีกนั้น เกือบครึ่งหนึ่งระบุว่าเป็นเพราะ "ความสะดวกสบายในการเดินทาง" (44%) ตามมาด้วยอาหารท้องถิ่น (42%) ทำเลที่ตั้งสะดวก (30%) ความปลอดภัยและความสะอาด (26%) ปิดท้ายด้วยความคุ้มค่าและประสบการณ์ที่ดีในครั้งก่อน (25%)
และเมื่อเจาะจงนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย พบว่า ญี่ปุ่น ไทย และเวียดนาม ขึ้นแท่นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเอเชียอยากกลับไปเยือนซ้ำมากที่สุด โดย "ความสะดวกสบายในการเดินทาง" คือเหตุผลอันดับหนึ่ง
การเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม สะท้อนจากผลงานของ บมจ.เอเชียโฮเต็ล (ASIA) ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจโรงแรม 7 แห่ง ประกอบด้วย
1) โรงแรมเอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
2) โรงแรมเอเชียพัทยา ตั้งอยู่ที่เมืองพัทยา
3) โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ท ตั้งอยู่ที่ รังสิต ปทุมธานี
4) โรงแรมเอเชีย ชะอำ ตั้งอยู่ที่หาดชะอำ จ. เพชรบุรี
5) ราชพฤกษ์ ลานนา บูทีค ตั้งอยู่ที่ตำบล หนองควาย อำเภอ หางดง จังหวัด เชียงใหม่
6) โรงแรมดาร์เลย์ตั้งอยู่ที่ ตำบล ช้างม่อย อำเภอ เมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
7) โรงแรม Quality Inn Long Beach Signal Hill ตั้งอยู่ที่ 3201 E. Pacific High Way Signal Hill California USA
ซึ่งในไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 306.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน 17.62ล้านบาทหรือ 6.09% เทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 2 ปี 2567 มีรายได้ 199.57 ล้านบาท (ไตรมาส 2 ปี 2566 มีรายได้ 178.08ล้านบาท ) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี2566 จำนวน 21.49 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ธุรกิจโรงแรมในประเทศมีรายได้ 172.68 ล้านบาท รายได้ธุรกิจโรงแรมต่างประเทศมีรายได้ 26.89 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่ากลุ่มธุรกิจโรงแรมมีการเติบโดของรายได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนธุรกิจให้เช่าพื้นที่และบริการบริหารโดย บริษัท เซียร์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) โดยบริษัทมีรายได้ค่าเช่าและจากการให้บริการในไตรมาส 2 ปี2567 จำนวน 107.38 ล้านบาท รายได้ลดลงจากปีก่อนจำนวน 3.87 ล้านบาท หรือ3.5% โดยแบ่งเป็นรายได้ค่าเช่าในประเทศ 99.90 ล้านบาท รายได้ค่าเช่าต่างประเทศ 7.48 ล้านบาท
การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยังเป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญและน้ำหนักในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อดึงดูดการเดินทางการท่องเที่ยวไทยของต่างชาติ ทำให้รายได้รวมของธุรกิจโรงแรมในปี 2567 มีแนวโน้มกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด