จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : SAAM แตกไลน์ธุรกิจลุยดิจิทัลเทคโนโลยี ดันรายได้ปี 67 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
10 กันยายน 2567
บมจ.เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ (SAAM) ขยายธุรกิจบุกตลาดเทคโนโลยีดิจิทัล เพิ่มฐานลูกค้ากลุ่ม โทรคมนาคม, งานด้านซอฟต์แวร์ ,โครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ จับมือผู้เชี่ยวชาญ ตั้งบริษัทร่วมทุน ส่งสัญญาณรายได้ปี 67 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญในการป้องกัน ซึ่งรวมทั้งรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร โดยเป็น 1 ใน 10 นโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12 กันยายน 2567
โดยระบุว่ารัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์/มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และรับมือกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างรวดเร็ว ช่วยเหลือเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างทันท่วงที โดยผนึกกำลังกับประเทศเพื่อนบ้าน และสร้างกลไกการร่วมรับผิดชอบของบริษัทผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมและธนาคารพาณิชย์
แนวทางการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ของรัฐบาล สอดคล้องกับทิศทางการขยายธุรกิจของ บมจ.เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ (SAAM) ซึ่ง “พดด้วง คงคามี”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับพันธมิตร นายนรัตถ์ สาระมาน ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยี จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.
โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ เพื่อขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้พัฒนาโครงการ และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม โทรคมนาคม, งานด้านซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงงานด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ที่มองว่า ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่สูง และรองรับกระแสของโลกในยุคดิจิทัล หวังสร้าง Passive Income
"บริษัทฯ มั่นใจว่าการที่ได้ ดร.นรัตถ์ เข้ามาร่วมผลักดันและสร้างการเจริญเติบโตกับ SAAM ในครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี ที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต สอดรับเมกะเทรนด์ ซึ่งดร.นรัตถ์ มีประสบการณ์ในธุรกิจดิจิทัลเทคโนโลยี โทรคมนาคม และการสื่อสาร มาเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี ได้รับการยอมรับ จากคนในแวดวงอุตสาหกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี ทำให้เพิ่มโอกาสในการได้รับงาน" นายพดด้วง กล่าว
ปัจจุบันมีงานรองรับอยู่แล้ว มูลค่ารวม 200-300 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้บางส่วนเข้ามาในบริษัทร่วมทุนตั้งแต่ปี 67
ทั้งนี้บริษัทฯ มั่นใจว่า รายได้ปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 118.36 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกทำได้ 37.25 ล้านบาท โดยครึ่งปีหลังจะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ การเป็นผู้พัฒนาโครงการ และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม โทรคมนาคม, งานด้านซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงงานด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) เข้ามาเสริม
ขณะเดียวกันยังคงแผนการเปิดตัวโครงการเกมที่ร่วมทุนกับบมจ.อิ๊กดาซิล กรุ๊ป (YGG) ในช่วงสิ้นปี 67 และจะรับรู้รายได้ทันที อีกทั้งธุรกิจการเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Project Developer) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังเติบโตต่อเนื่อง
ส่วนการสร้างการเติบโตของกำไร จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาส 4/67 ตามการส่งมอบงานที่ค่อนข้างมาก จากครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิเพียง 8.98 ล้านบาท
ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญในการป้องกัน ซึ่งรวมทั้งรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร โดยเป็น 1 ใน 10 นโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12 กันยายน 2567
โดยระบุว่ารัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์/มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และรับมือกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างรวดเร็ว ช่วยเหลือเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างทันท่วงที โดยผนึกกำลังกับประเทศเพื่อนบ้าน และสร้างกลไกการร่วมรับผิดชอบของบริษัทผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมและธนาคารพาณิชย์
แนวทางการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ของรัฐบาล สอดคล้องกับทิศทางการขยายธุรกิจของ บมจ.เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ (SAAM) ซึ่ง “พดด้วง คงคามี”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับพันธมิตร นายนรัตถ์ สาระมาน ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยี จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.
โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ เพื่อขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้พัฒนาโครงการ และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม โทรคมนาคม, งานด้านซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงงานด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ที่มองว่า ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่สูง และรองรับกระแสของโลกในยุคดิจิทัล หวังสร้าง Passive Income
"บริษัทฯ มั่นใจว่าการที่ได้ ดร.นรัตถ์ เข้ามาร่วมผลักดันและสร้างการเจริญเติบโตกับ SAAM ในครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี ที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต สอดรับเมกะเทรนด์ ซึ่งดร.นรัตถ์ มีประสบการณ์ในธุรกิจดิจิทัลเทคโนโลยี โทรคมนาคม และการสื่อสาร มาเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี ได้รับการยอมรับ จากคนในแวดวงอุตสาหกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี ทำให้เพิ่มโอกาสในการได้รับงาน" นายพดด้วง กล่าว
ปัจจุบันมีงานรองรับอยู่แล้ว มูลค่ารวม 200-300 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้บางส่วนเข้ามาในบริษัทร่วมทุนตั้งแต่ปี 67
ทั้งนี้บริษัทฯ มั่นใจว่า รายได้ปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 118.36 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกทำได้ 37.25 ล้านบาท โดยครึ่งปีหลังจะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ การเป็นผู้พัฒนาโครงการ และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม โทรคมนาคม, งานด้านซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงงานด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) เข้ามาเสริม
ขณะเดียวกันยังคงแผนการเปิดตัวโครงการเกมที่ร่วมทุนกับบมจ.อิ๊กดาซิล กรุ๊ป (YGG) ในช่วงสิ้นปี 67 และจะรับรู้รายได้ทันที อีกทั้งธุรกิจการเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Project Developer) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังเติบโตต่อเนื่อง
ส่วนการสร้างการเติบโตของกำไร จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาส 4/67 ตามการส่งมอบงานที่ค่อนข้างมาก จากครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิเพียง 8.98 ล้านบาท