บมจ.พรีบิลท์ (PREB) โชว์กำไรสุทธิปี65 พุ่งกระฉูด 46 % แตะ 354.93 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดรอบ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2562 ผลจากยอดขายเพิ่มทุกธุรกิจ โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดดเด่น ขณะที่บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.50 บ./หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผล 19 พ.ค.นี้ ฟากซีอีโอ "วิโรจน์ เจริญตรา" ระบุตั้งเป้ารายได้ปี 2566 เติบโต 10% คาดธุรกิจอสังหาฯรับรู้ยอดโอนจาก 5 โครงการราว 1,200 ล้านบาท ส่วนงานรับเหมาก่อสร้าง ลุยประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง กอด Backlog หนากว่า 6,000 ล้านบาท เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนกำไรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปักหมุด 3 ปีแตะระดับ 50%
นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดปี 2565 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 354.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46 % จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 241.62 ล้านบาทซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีนับ ตั้งแต่ปี 2562 ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 5,774.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.50 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 4,564.79 ล้านบาท
“ในปี 2565 บริษัทฯ มียอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1,209.78 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นในทุกส่วน ขณะที่สามารถทํากําไรสุทธิรวมประมาณ 354.93 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 113.31 ล้านบาท เป็นผลมาจากส่วนงานอสังหาริมทรัพย์มียอดโอนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนค่อนข้างมาก"นายวิโรจน์กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2565 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.50บาท รวมเป็นเงินปันผลไม่เกิน 154.34 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 และกําหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% โดยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังเติบโตต่อเนื่อง และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2566 จะมีรายได้มาจาก 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพิมนารา ศรีนครินทร์ – บางนา โครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์ – รังสิต โครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์ – รังสิต และที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีอีก 2 โครงการ คือ โครงการพิมนารา ศาลายาและโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีมูลค่ายอดโอนรวมกันกว่า 1,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีจะเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็น 50% ของกำไรรวมจากปี 2565 มีสัดส่วนอยู่ที่ 20% ขณะที่กำไรมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ 80%
ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้(backlog) ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ในระยะเวลา 2 ปี โดยรับรู้ปีนี้ราว 50% และบริษัทฯได้ยื่นประมูลงานรับเหมาก่อสร้างใหม่ ซึ่งเป็นงานก่อสร้างประเภทคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน 4 โครงการ รวมทั้งยังมีงานที่รอประมูลใหม่อีกจำนวนมาก
นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จํากัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดปี 2565 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 354.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46 % จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 241.62 ล้านบาทซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีนับ ตั้งแต่ปี 2562 ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 5,774.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.50 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 4,564.79 ล้านบาท
“ในปี 2565 บริษัทฯ มียอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1,209.78 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นในทุกส่วน ขณะที่สามารถทํากําไรสุทธิรวมประมาณ 354.93 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 113.31 ล้านบาท เป็นผลมาจากส่วนงานอสังหาริมทรัพย์มียอดโอนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนค่อนข้างมาก"นายวิโรจน์กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2565 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.50บาท รวมเป็นเงินปันผลไม่เกิน 154.34 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 และกําหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% โดยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังเติบโตต่อเนื่อง และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2566 จะมีรายได้มาจาก 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพิมนารา ศรีนครินทร์ – บางนา โครงการพิมนารา ธรรมศาสตร์ – รังสิต โครงการพรีวิลเลจ ธรรมศาสตร์ – รังสิต และที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีอีก 2 โครงการ คือ โครงการพิมนารา ศาลายาและโครงการพรรณนา ทวีวัฒนา ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีมูลค่ายอดโอนรวมกันกว่า 1,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีจะเพิ่มสัดส่วนกำไรของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็น 50% ของกำไรรวมจากปี 2565 มีสัดส่วนอยู่ที่ 20% ขณะที่กำไรมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ 80%
ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้(backlog) ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ในระยะเวลา 2 ปี โดยรับรู้ปีนี้ราว 50% และบริษัทฯได้ยื่นประมูลงานรับเหมาก่อสร้างใหม่ ซึ่งเป็นงานก่อสร้างประเภทคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน 4 โครงการ รวมทั้งยังมีงานที่รอประมูลใหม่อีกจำนวนมาก