จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : IND รับอานิสงส์การลงทุนภาครัฐเร่งตัว หนุนผลงานเติบโตมีเสถียรภาพ
11 กันยายน 2567
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC คาดช่วงครึ่งหลังของปี 67 การก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เร่งตัวขึ้น สอดคล้องกับมุมมองผู้บริหาร บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) ประกาศพร้อมเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐ มั่นใจมีโอกาสชนะประมูลสูง สนับสนุนผลงานปีนี้โตมีเสถียรภาพ
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 การก่อสร้างภาครัฐเผชิญความท้าทายจากความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณประจำปี 2567 อย่างไรก็ดี การประกาศใช้งบประมาณในเดือนพฤษภาคม 2567 ส่งผลให้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมเร่งตัว โดยคาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 การก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เร่งตัวขึ้น
สำหรับปี 2568 หากการจัดทำงบประมาณประจำปี 2568 ยังสามารถดำเนินการได้ทัน Timeline และประกาศใช้ภายในเดือนกันยายน 2567 หรือล่าช้าออกไปจากนี้ไม่มากนัก และมีการเร่งเบิกจ่ายได้ทัน ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการก่อสร้างภาครัฐในปี 2568
โดย SCB EIC คาดว่า มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัว 3%จากปีก่อนหน้า นอกจากนี้ หน่วยงานต่าง ๆ มีแผนเตรียมเสนอเปิดประมูลโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคม เป็นโอกาสสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ และส่งผลต่อเนื่องให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรายกลางและเล็ก ในฐานะผู้รับเหมาช่วงมีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น และมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น
การก่อสร้างภาครัฐที่มีมากขึ้น เป็นโอกาสในการเข้าประมูลและได้รับงาน ของ บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) ซึ่ง “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IND ระบุ ผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) มีกำไรสุทธิ 14.12 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 319.06 ล้านบาท สาเหตุสำคัญที่ผลักดันผลงาน เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานโครงการออกแบบและพร้อมก่อสร้างใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาหลายโครงการก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ยังทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog)ที่มีอยู่ประมาณ 1,376.02 ล้านบาท (ณ สิ้นสุดวันที่31กรกฎาคม 2567) และบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในครึ่งปีหลังเชื่อว่า จะฟื้นตัวจากการเร่งรัดให้มีโครงการก่อสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจINDเพราะมีโอกาสเข้าร่วมประมูล โครงการออกแบบและก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ส่วนภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรกถือว่า เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ และเชื่อว่าทั้งปีน่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากภาครัฐออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสรับงานใหม่ๆเพิ่มเติม สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ IND ยังมีผลงานต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ลงนามสัญญาโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณถนนทวีวงศ์ (พื้นที่ต้อนรับ Welcome Zone) กับเทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต มูลค่าโครงการ 42 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินงาน 300 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 - 21 พฤษภาคม 2568 หนุนงานในมือเพิ่มขึ้นเป็น 1,376.02 ล้านบาท (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ก.ค.67 ) รวมถึงทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
และบริษัทฯจะเข้าร่วมประมูลโครงการพร้อมทั้งเตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ รวมถึงรายได้ กำไรในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเชื่อว่าด้วยประสบการณ์งานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษา และออกแบบพร้อมก่อสร้างในการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำให้เป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากหน่วยงานต่างๆ จากภาครัฐและเอกชน ทำให้สามารถคว้างานโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 การก่อสร้างภาครัฐเผชิญความท้าทายจากความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณประจำปี 2567 อย่างไรก็ดี การประกาศใช้งบประมาณในเดือนพฤษภาคม 2567 ส่งผลให้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมเร่งตัว โดยคาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 การก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เร่งตัวขึ้น
สำหรับปี 2568 หากการจัดทำงบประมาณประจำปี 2568 ยังสามารถดำเนินการได้ทัน Timeline และประกาศใช้ภายในเดือนกันยายน 2567 หรือล่าช้าออกไปจากนี้ไม่มากนัก และมีการเร่งเบิกจ่ายได้ทัน ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการก่อสร้างภาครัฐในปี 2568
โดย SCB EIC คาดว่า มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัว 3%จากปีก่อนหน้า นอกจากนี้ หน่วยงานต่าง ๆ มีแผนเตรียมเสนอเปิดประมูลโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคม เป็นโอกาสสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ และส่งผลต่อเนื่องให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรายกลางและเล็ก ในฐานะผู้รับเหมาช่วงมีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น และมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น
การก่อสร้างภาครัฐที่มีมากขึ้น เป็นโอกาสในการเข้าประมูลและได้รับงาน ของ บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) ซึ่ง “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IND ระบุ ผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) มีกำไรสุทธิ 14.12 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 319.06 ล้านบาท สาเหตุสำคัญที่ผลักดันผลงาน เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานโครงการออกแบบและพร้อมก่อสร้างใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาหลายโครงการก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ยังทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog)ที่มีอยู่ประมาณ 1,376.02 ล้านบาท (ณ สิ้นสุดวันที่31กรกฎาคม 2567) และบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในครึ่งปีหลังเชื่อว่า จะฟื้นตัวจากการเร่งรัดให้มีโครงการก่อสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจINDเพราะมีโอกาสเข้าร่วมประมูล โครงการออกแบบและก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ส่วนภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรกถือว่า เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ และเชื่อว่าทั้งปีน่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากภาครัฐออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสรับงานใหม่ๆเพิ่มเติม สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ IND ยังมีผลงานต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ลงนามสัญญาโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณถนนทวีวงศ์ (พื้นที่ต้อนรับ Welcome Zone) กับเทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต มูลค่าโครงการ 42 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินงาน 300 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 - 21 พฤษภาคม 2568 หนุนงานในมือเพิ่มขึ้นเป็น 1,376.02 ล้านบาท (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ก.ค.67 ) รวมถึงทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
และบริษัทฯจะเข้าร่วมประมูลโครงการพร้อมทั้งเตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ รวมถึงรายได้ กำไรในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเชื่อว่าด้วยประสบการณ์งานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษา และออกแบบพร้อมก่อสร้างในการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทำให้เป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากหน่วยงานต่างๆ จากภาครัฐและเอกชน ทำให้สามารถคว้างานโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง