Talk of The Town
BH พบ “บิ๊กล็อต” ปริศนาโผล่ 20 ล้านหุ้น รวม 59 รายการ กว่า 5.1 พันลบ. ราคาต่ำกว่ากระดาน โบรกฯ คาด “สาธิต วิทยาการ” เป็นคนทำธุรกรรม
11 กันยายน 2567
ราคาหุ้นบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ในวันนี้ (11 ก.ย. 67) มีมูลค่าซื้อขายอย่างหน้าแน่น โดยราคาหุ้นปิดภาคเช้าที่ 266 บาท ลดลงกว่า 1.85% ล่าสุดพบบิ๊กล็อตก้อนใหญ่ 59 รายการ จำนวน 20 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ย 257 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 5.1 พันล้านบาท
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มีมุมมอง Slightly negative sentiment ต่อ BH เนื่องจากราคาซื้อขาย Big lot ต่ำกว่าราคาปิดวานนี้ อาจเป็นปัจจัยกดดันการเคลื่อนไหวของราคา BH ในระยะสั้น
โดยฝ่ายวิจัยได้สอบถามกับ BH ระบุไม่ใช่เป็นการขายของผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มโสภณพนิช ในเบื้องต้นน่าจะเป็นการซื้อขายระหว่างนายสาธิตกับกลุ่มนักลงทุนรายอื่น ซึ่งหากเป็นไปตามข่าว ทำให้นายสาธิตจะถือหุ้น BH ลดลงจาก 34 ล้านหุ้น (สัดส่วน 4.28%) เหลือ 14 ล้านหุ้น (สัดส่วน 1.76%)
อย่างไรก็ตามมองว่าธุรกรรมดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน BH คาดปี 67 มีกำไรสุทธิ 7,782 ล้านบาท เติบโต 12% จาปีก่อน เติบโตเด่นการเติบโตเฉลี่ยของกลุ่มโรงพยาบาลที่ศึกษา เนื่องจากคาดรายได้ เติบโต 7% เติบโตจากการปรับราคาและ Intensity ค่ารักษาโรคสูงขึ้นจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติ รวมทั้งมีจุดเด่นในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ดังนั้นแนะนำ Trading Buy สำหรับ BH ราคาเป้าหมาย 290 บาท มอง BH มีจุดเด่นในการรักษาโรคยากซับซ้อน และบริหารต้นทุนได้ดี ทำให้มี EBITDA margin และ Net margin สูงสุดในกลุ่มการแพทย์ที่ศึกษา อย่างไรก็ตาม จำนวนเตียงที่ไม่มากและมีอัตราใช้เตียงเฉลี่ยกว่า 70% อาจเป็นข้อจำกัดต่อการเติบโตในระยะยาว ทำให้คาดกำไรสุทธิปี 67-69 ของ BH เติบโตเฉลี่ย 7%CAGR เด่นน้อยกว่า BDMS (คาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 11% CAGR)
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มีมุมมอง Slightly negative sentiment ต่อ BH เนื่องจากราคาซื้อขาย Big lot ต่ำกว่าราคาปิดวานนี้ อาจเป็นปัจจัยกดดันการเคลื่อนไหวของราคา BH ในระยะสั้น
โดยฝ่ายวิจัยได้สอบถามกับ BH ระบุไม่ใช่เป็นการขายของผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มโสภณพนิช ในเบื้องต้นน่าจะเป็นการซื้อขายระหว่างนายสาธิตกับกลุ่มนักลงทุนรายอื่น ซึ่งหากเป็นไปตามข่าว ทำให้นายสาธิตจะถือหุ้น BH ลดลงจาก 34 ล้านหุ้น (สัดส่วน 4.28%) เหลือ 14 ล้านหุ้น (สัดส่วน 1.76%)
อย่างไรก็ตามมองว่าธุรกรรมดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน BH คาดปี 67 มีกำไรสุทธิ 7,782 ล้านบาท เติบโต 12% จาปีก่อน เติบโตเด่นการเติบโตเฉลี่ยของกลุ่มโรงพยาบาลที่ศึกษา เนื่องจากคาดรายได้ เติบโต 7% เติบโตจากการปรับราคาและ Intensity ค่ารักษาโรคสูงขึ้นจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติ รวมทั้งมีจุดเด่นในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ดังนั้นแนะนำ Trading Buy สำหรับ BH ราคาเป้าหมาย 290 บาท มอง BH มีจุดเด่นในการรักษาโรคยากซับซ้อน และบริหารต้นทุนได้ดี ทำให้มี EBITDA margin และ Net margin สูงสุดในกลุ่มการแพทย์ที่ศึกษา อย่างไรก็ตาม จำนวนเตียงที่ไม่มากและมีอัตราใช้เตียงเฉลี่ยกว่า 70% อาจเป็นข้อจำกัดต่อการเติบโตในระยะยาว ทำให้คาดกำไรสุทธิปี 67-69 ของ BH เติบโตเฉลี่ย 7%CAGR เด่นน้อยกว่า BDMS (คาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 11% CAGR)