Talk of The Town
เกาะติดวันนี้! นายกฯ แถลงต่อสภา จับตา 7 นโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน หุ้นกลุ่มไหนจะได้รับผลบวก?
12 กันยายน 2567
ในวันนี้ (12 ก.ย.) เกาะติดการแถลงนโยบายนายกแพทองธาร ชินวัตร ต่อสภา โดยนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน 7 นโยบาย กำลังจะทำให้หุ้นเหล่านี้ได้ประโยชน์เต็มๆ นักวิเคราะห์ชี้ เป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า ประเด็นวันนี้การแถลงนโยบายนายกต่อสภา อิงเอกสารประกอบการแถลงนโยบาย พบว่า มีนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วนทั้งสิ้น 7 นโยบาย
โดยรวมมองบวกต่อหุ้นฝั่ง Domestic ค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC) ธนาคาร (BBL, KBANK) เช่าซื้อ (MTC) ท่องเที่ยว(AOT, BTS, VGI, BJC, STEC, ERW, BA, MBK) กลุ่ม Infra Tech (GULF, WHA, ADVANC, TRUE, BE8, BBIK), Entertainment Complex
ทั้งนี้เชิงกลยุทธ์ ระยะสั้นเน้นค้าปลีก CPALL ธนาคาร KBANK เช่าซื้อ MTC จากนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อที่น่าจะเข้ามาหนุนเศรษฐกิจเร็วสุด ส่วนรายละเอียดนโยบายสรุปดังนี้
1.นโยบายที่จะผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะสินเชื่อบ้านและรถ สินเชื่อทั้งในและนอกระบบ โดยจะดำเนินนโยบายผ่านสถาบันการเงินรัฐฯ ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทบริหารสินทรัพย์
โดยมองบวกต่อกลุ่มธนาคาร เช่าซื้อที่กำลังเผชิญแรงกดดันคุณภาพสินทรัพย์ ทั้งนี้ มีโอกาสเป็นจิตวิทยาลบเล็กๆ ต่อกลุ่มติดตามหนี้ที่ปริมาณการขายหนี้เสียสู่ระบบระยะสั้นอาจจะลดลง แต่ระยะกลาง-ยาว เชื่อหนุนจากความสามารถจ่ายหนี้ดีขึ้น นโยบายดังกล่าวเน้นลงทุน KBANK, KTB, BBL, MTC
2.รัฐบาลจะดูแล และส่งเสริมพร้อมปกป้องผลประโยชน์ธุรกิจ SMEs มองบวกต่อธนาคารที่มีสินเชื่อ SMEs สัดส่วนสูงๆ อาทิ KBANK, TTB
3.รัฐบาลจะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค (ปรับโครงสร้างราคาพลังงงาน เช่น Direct PPA บวกต่อกลุ่มหุ้นในธีม Infra Tech ที่ดึงดูดการลงทุน Data Center จากต่างประเทศเร็วขึ้น อาทิ GULF, WHA, ADVANC, TRUE, BE8, BBIK) ส่วนการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนพลังงาน บวกต่อ PTTEP ด้านการผลักดันระบบขนส่งมวลชน ค่าโดยสารราคาเดียว บวกต่อ BTS
4.นโยบายนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีเข้าสู่ระบบภาษี บวกต่อการเงินภาษีสร้างสวัสดิการที่ดีและการพัฒนาประเทศระยะยาว
5. นโยบายเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกลุ่มเปราะบางลำดับแรก คาดเป็นการนำเงินส่วนเพิ่มงบประมาณปี 2567 แจกตรงสู่กลุ่มดังกล่าว และผลักดันโครงการ Digital Wallet ต่อเนื่อง บวกต่อกลุ่ม Domestic ค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC) ธนาคาร (BBL, KBANK) เช่าซื้อ (MTC, JMT)
6. รัฐบาลจะยกระดับเกษตรดั้งเดิมเป็นเกษตรทันสมัย บวกต่อหุ้นกลุ่มเกษตร – อาหารที่มีความพร้อมลงทุน อาทิ CPF กลุ่ม Digital Tech ในฐานะผู้ให้คำปรึกษา Digital Transformation อาทิ BE8 BBIK
7. นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวมนุษย์สร้าง สวนน้ำ สวนสนุก สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) รวมถึงการดึงเทศกาลระดับโลกเข้ามาจัดในไทย มองบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวที่ตลาดจะเห็นภาพการยกระดับการเติบโตนักท่องเที่ยวระยะถัดไป หลังยอดปัจจุบันใกล้แตะระดับก่อน COVID แล้ว (AOT (ตั้งรับ), BTS, VGI, BJC, STEC, ERW, BA, MBK)
ส่วนนโยบายระยะกลาง-ยาว อาทิ การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาปสู่ยานยนต์อนาคต (HEVs PHEVs BEVs และ FCEVs) การส่งเสริม Soft Power การส่งเสริมอุตสาหกรรมอนาคต (Green Economy, Digital Economy, Medical Hub, Financial Hub, การลงทุน Infrastructure และ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ อาทิ การศึกษาแนวทาง Negative Income Tax)
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า ประเด็นวันนี้การแถลงนโยบายนายกต่อสภา อิงเอกสารประกอบการแถลงนโยบาย พบว่า มีนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วนทั้งสิ้น 7 นโยบาย
โดยรวมมองบวกต่อหุ้นฝั่ง Domestic ค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC) ธนาคาร (BBL, KBANK) เช่าซื้อ (MTC) ท่องเที่ยว(AOT, BTS, VGI, BJC, STEC, ERW, BA, MBK) กลุ่ม Infra Tech (GULF, WHA, ADVANC, TRUE, BE8, BBIK), Entertainment Complex
ทั้งนี้เชิงกลยุทธ์ ระยะสั้นเน้นค้าปลีก CPALL ธนาคาร KBANK เช่าซื้อ MTC จากนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อที่น่าจะเข้ามาหนุนเศรษฐกิจเร็วสุด ส่วนรายละเอียดนโยบายสรุปดังนี้
1.นโยบายที่จะผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะสินเชื่อบ้านและรถ สินเชื่อทั้งในและนอกระบบ โดยจะดำเนินนโยบายผ่านสถาบันการเงินรัฐฯ ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทบริหารสินทรัพย์
โดยมองบวกต่อกลุ่มธนาคาร เช่าซื้อที่กำลังเผชิญแรงกดดันคุณภาพสินทรัพย์ ทั้งนี้ มีโอกาสเป็นจิตวิทยาลบเล็กๆ ต่อกลุ่มติดตามหนี้ที่ปริมาณการขายหนี้เสียสู่ระบบระยะสั้นอาจจะลดลง แต่ระยะกลาง-ยาว เชื่อหนุนจากความสามารถจ่ายหนี้ดีขึ้น นโยบายดังกล่าวเน้นลงทุน KBANK, KTB, BBL, MTC
2.รัฐบาลจะดูแล และส่งเสริมพร้อมปกป้องผลประโยชน์ธุรกิจ SMEs มองบวกต่อธนาคารที่มีสินเชื่อ SMEs สัดส่วนสูงๆ อาทิ KBANK, TTB
3.รัฐบาลจะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค (ปรับโครงสร้างราคาพลังงงาน เช่น Direct PPA บวกต่อกลุ่มหุ้นในธีม Infra Tech ที่ดึงดูดการลงทุน Data Center จากต่างประเทศเร็วขึ้น อาทิ GULF, WHA, ADVANC, TRUE, BE8, BBIK) ส่วนการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนพลังงาน บวกต่อ PTTEP ด้านการผลักดันระบบขนส่งมวลชน ค่าโดยสารราคาเดียว บวกต่อ BTS
4.นโยบายนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีเข้าสู่ระบบภาษี บวกต่อการเงินภาษีสร้างสวัสดิการที่ดีและการพัฒนาประเทศระยะยาว
5. นโยบายเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกลุ่มเปราะบางลำดับแรก คาดเป็นการนำเงินส่วนเพิ่มงบประมาณปี 2567 แจกตรงสู่กลุ่มดังกล่าว และผลักดันโครงการ Digital Wallet ต่อเนื่อง บวกต่อกลุ่ม Domestic ค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC) ธนาคาร (BBL, KBANK) เช่าซื้อ (MTC, JMT)
6. รัฐบาลจะยกระดับเกษตรดั้งเดิมเป็นเกษตรทันสมัย บวกต่อหุ้นกลุ่มเกษตร – อาหารที่มีความพร้อมลงทุน อาทิ CPF กลุ่ม Digital Tech ในฐานะผู้ให้คำปรึกษา Digital Transformation อาทิ BE8 BBIK
7. นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวมนุษย์สร้าง สวนน้ำ สวนสนุก สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) รวมถึงการดึงเทศกาลระดับโลกเข้ามาจัดในไทย มองบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวที่ตลาดจะเห็นภาพการยกระดับการเติบโตนักท่องเที่ยวระยะถัดไป หลังยอดปัจจุบันใกล้แตะระดับก่อน COVID แล้ว (AOT (ตั้งรับ), BTS, VGI, BJC, STEC, ERW, BA, MBK)
ส่วนนโยบายระยะกลาง-ยาว อาทิ การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาปสู่ยานยนต์อนาคต (HEVs PHEVs BEVs และ FCEVs) การส่งเสริม Soft Power การส่งเสริมอุตสาหกรรมอนาคต (Green Economy, Digital Economy, Medical Hub, Financial Hub, การลงทุน Infrastructure และ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ อาทิ การศึกษาแนวทาง Negative Income Tax)