POLAR ร่อนหนังสือแย้งตลาดหลักทรัพย์ ไม่เห็นด้วยกับเหตุที่หุ้นโดนเพิกถอน ชี้เป็นดุลยพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายทิศชวน นานาวารทร ประธานกรรมการ บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR เปิดเผยว่าตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลท.”) ได้มีหนังสือมายัง บริษัท และบริษัทฯ ได้รับหนังสือดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีสาระสำคัญโดยสรุปดังนี้
1. จากเหตุที่หุ้นสามัญของบริษัทฯ เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตาม ข้อ 7 (6) (ข) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งต่อมาบริษัทฯ สามารถแก้ไขเหตุดังกล่าวได้ ตลาดหลักทรัพย์จึงประกาศให้บริษัทฯ เข้าสู่ช่วงดำเนินการเพื่อให้มีคุณสมบัติกลับมาซื้อขาย ทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องดำเนินการเพื่อให้มีคุณสมบัติกลับมาซื้อขายได้ตามหลักเกณฑ์และภายใน ระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์
2. บริษัทฯ ได้จัดทำรายงานควาบคืบหน้าในการดำเนินการเพื่อให้มีคุณสมบัติกลับมาซื้อขาย พร้อมเหตุผล และข้อมูลสนับสนุนข้อเท็จจริงไปยังตลาดหลักทรัพย์ พร้อมทั้งชี้แจงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ และรายละเอียดของการดำเนินงาน
3. คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พิจารณาข้อเท็จจริง คำชี้แจง และเอกสารหลักฐานของ บริษัทฯ เห็นว่าจนถึงปัจจุบันบริษัทฯ ยังไม่สามารถดำเนินการให้มีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่มั่นคงอย่างต่อเนื่องจนมีคุณสมบัติกลับมาซื้อขายได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดภายใน ระยะเวลาอันใกล้นี้ ดังนั้นคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมีมติให้เพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
ทั้งนี้บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งว่า บริษัทฯ ไม่เห็นด้วยกับเหตุผลและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการตลาด หลักทรัพยฯ ดังกล่าว ทุกข้อ ทุกประเด็น โดยบริษัทฯ เห็นว่าหุ้นสามัญของบริษัทฯไม่มีเหตุเข้าข่ายถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามข้อบังคับฯ ไม่ว่าข้อใด เหตุดังกล่าว ถ้าหากจะมีอยู่จริงก็เป็นเหตุที่ สามารถแก้ไขได้ภายในระยะเวลาอันสมควร และเห็นว่าดุลยพินิจของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ที่ให้เพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อข้อเท็จจริง
เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น 8,648 ท่าน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทฯ ได้อย่างสูงสุด และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการจัดตั้งและการดำรงอยู่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯ จึงขอแจ้งยืนยันแนวทางการดำเนินการต่อไปว่า บริษัทฯ จะอุทธรณ์คัดค้านคำวินิจฉัยดังกล่าวต่อคณะกรรมการอุทธณ์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งข้อเท็จจริงและ ข้อกฎหมายต่อไปจนกว่าจะถึงที่สุด