จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : MENA ครึ่งปีหลังรับโครงการเมกะโปรเจกต์ หนุนความต้องการขนส่งคอนกรีตและสินค้า
13 กันยายน 2567
SCB EIC คาดครึ่งหลังปี 67 การก่อสร้างภาครัฐและการเบิกจ่ายงบลงทุนเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3/67 ซึ่งเป็นช่วงท้ายของปีงบประมาณ กระตุ้นการสร้างรายได้ บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ที่ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีต ขณะที่ผู้บริหารมั่นใจบริษัทผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 67 การก่อสร้างภาครัฐเผชิญความท้าทายจากความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณประจำปี 67 เนื่องจากเป็นปีที่มีการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่งผลให้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมในช่วง 4 เดือนแรกของปี 67 อยู่ในระดับต่ำกว่าปีปกติมาก
อย่างไรก็ดี การประกาศใช้งบประมาณประจำปี 67 ในเดือนพ.ค. 67 ได้ส่งผลให้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมเร่งตัวขึ้น และฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 63 ซึ่งเป็นปีที่การจัดทำงบประมาณประจำปีมีความล่าช้าเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 67 การก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3/67 ซึ่งเป็นช่วงท้ายของปีงบประมาณ
สำหรับปี 68 หากการจัดทำงบประมาณสามารถดำเนินการได้ทันประกาศใช้ภายในเดือนก.ย. 67 หรือล่าช้าออกไปจากนี้ไม่มากนัก และมีการเร่งเบิกจ่ายได้ทัน ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการก่อสร้างภาครัฐในปีหน้า โดยคาดว่ามูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 68 มีแนวโน้มขยายตัว 3% ซึ่งผู้รับเหมาก่อสร้างที่รับงานโครงการก่อสร้างภาครัฐเป็นหลักมีโอกาสเข้าประมูลโครงการก่อสร้างภายใต้งบประมาณประจำปี 68
และหน่วยงานต่างๆ มีแผนเตรียมเสนอเปิดประมูลโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านการคมนาคม คาดว่าจะมีโครงการที่เปิดประมูลในปี 67 และ 68 เช่น รถไฟทางคู่ เฟส 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มอเตอร์เวย์สาย 9 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก ซึ่งจะทยอยหนุนให้เกิดเม็ดเงินจากโครงการก่อสร้างภาครัฐในปี 68 เป็นต้นไป
การลงทุนก่อสร้างที่เร่งตัวขึ้นส่งผลดีต่อยอดขาย บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ที่ให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถลากจูงหรือรถเทรลเลอร์ (Trailer) ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) และการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง
“กอบชัย ชิดเชื้อสกุลชน” ผู้อำนวยการสายงานบัญชีการเงิน MENA กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก หลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากภาครัฐและเอกชนมีการลงทุนมากขึ้น ส่งผลดีต่อปริมาณการใช้คอนกรีตผสมเสร็จ ซึ่งบริษัทฯ มีสัดส่วนงานภาครัฐที่ 40% และเอกชน 60% โดยในส่วนของงานภาครัฐ จะเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลักถึง 80%
ปัจจุบันมีงานภาครัฐเข้ามาแล้ว ล่าสุด บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ (ITD) ได้รับงานก่อสร้างโครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) มูลค่างานกว่า 1.86 หมื่นล้านบาท คาดหนุนปริมาณการใช้คอนกรีต
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินการซื้อรถขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จเพิ่มอีก จำนวน 10-20 คัน เพื่อรองรับงานภาครัฐที่คาดจะออกมามากขึ้น คาดว่าจะหนุน operation ฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 4/67
ด้านงานภาคเอกชน คาดว่าจะเห็นการลงทุนมากขึ้นในครึ่งปีหลังตามภาครัฐ ทำให้เชื่อว่าน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเช่นเดียวกัน
สำหรับธุรกิจขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้บริษัทร่วมทุน ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ (TDM) (MENA ถือหุ้น 35% และบริษัท ตะวันแดง โลจิสติกส์ จำกัด : TWD ถือหุ้น 65%) คาดฟื้นตัว รับอานิสงค์จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เดินหน้าต่อ หนุนยอดขาย CJ MORE และร้านค้าปลีกอื่นๆ อย่างไรก็ตามเตรียมปรับสัดส่วนรถขนส่งของ TDM เพิ่มเป็น 60-70% จากเดิม 30% โดยเป็นการลดสัดส่วนการว่าจ้างซับคอนแทรคลง เพื่อเพิ่มกำไร ปัจจุบัน TDM มีรถขนส่งฯ อยู่จำนวน 200 คัน จะเพิ่มอีก 100 คัน
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 67 การก่อสร้างภาครัฐเผชิญความท้าทายจากความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณประจำปี 67 เนื่องจากเป็นปีที่มีการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่งผลให้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมในช่วง 4 เดือนแรกของปี 67 อยู่ในระดับต่ำกว่าปีปกติมาก
อย่างไรก็ดี การประกาศใช้งบประมาณประจำปี 67 ในเดือนพ.ค. 67 ได้ส่งผลให้อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมเร่งตัวขึ้น และฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 63 ซึ่งเป็นปีที่การจัดทำงบประมาณประจำปีมีความล่าช้าเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 67 การก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3/67 ซึ่งเป็นช่วงท้ายของปีงบประมาณ
สำหรับปี 68 หากการจัดทำงบประมาณสามารถดำเนินการได้ทันประกาศใช้ภายในเดือนก.ย. 67 หรือล่าช้าออกไปจากนี้ไม่มากนัก และมีการเร่งเบิกจ่ายได้ทัน ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการก่อสร้างภาครัฐในปีหน้า โดยคาดว่ามูลค่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 68 มีแนวโน้มขยายตัว 3% ซึ่งผู้รับเหมาก่อสร้างที่รับงานโครงการก่อสร้างภาครัฐเป็นหลักมีโอกาสเข้าประมูลโครงการก่อสร้างภายใต้งบประมาณประจำปี 68
และหน่วยงานต่างๆ มีแผนเตรียมเสนอเปิดประมูลโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านการคมนาคม คาดว่าจะมีโครงการที่เปิดประมูลในปี 67 และ 68 เช่น รถไฟทางคู่ เฟส 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มอเตอร์เวย์สาย 9 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก ซึ่งจะทยอยหนุนให้เกิดเม็ดเงินจากโครงการก่อสร้างภาครัฐในปี 68 เป็นต้นไป
การลงทุนก่อสร้างที่เร่งตัวขึ้นส่งผลดีต่อยอดขาย บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ที่ให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถลากจูงหรือรถเทรลเลอร์ (Trailer) ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) และการขายสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง
“กอบชัย ชิดเชื้อสกุลชน” ผู้อำนวยการสายงานบัญชีการเงิน MENA กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก หลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากภาครัฐและเอกชนมีการลงทุนมากขึ้น ส่งผลดีต่อปริมาณการใช้คอนกรีตผสมเสร็จ ซึ่งบริษัทฯ มีสัดส่วนงานภาครัฐที่ 40% และเอกชน 60% โดยในส่วนของงานภาครัฐ จะเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลักถึง 80%
ปัจจุบันมีงานภาครัฐเข้ามาแล้ว ล่าสุด บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ (ITD) ได้รับงานก่อสร้างโครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) มูลค่างานกว่า 1.86 หมื่นล้านบาท คาดหนุนปริมาณการใช้คอนกรีต
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินการซื้อรถขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จเพิ่มอีก จำนวน 10-20 คัน เพื่อรองรับงานภาครัฐที่คาดจะออกมามากขึ้น คาดว่าจะหนุน operation ฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 4/67
ด้านงานภาคเอกชน คาดว่าจะเห็นการลงทุนมากขึ้นในครึ่งปีหลังตามภาครัฐ ทำให้เชื่อว่าน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเช่นเดียวกัน
สำหรับธุรกิจขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้บริษัทร่วมทุน ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ (TDM) (MENA ถือหุ้น 35% และบริษัท ตะวันแดง โลจิสติกส์ จำกัด : TWD ถือหุ้น 65%) คาดฟื้นตัว รับอานิสงค์จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เดินหน้าต่อ หนุนยอดขาย CJ MORE และร้านค้าปลีกอื่นๆ อย่างไรก็ตามเตรียมปรับสัดส่วนรถขนส่งของ TDM เพิ่มเป็น 60-70% จากเดิม 30% โดยเป็นการลดสัดส่วนการว่าจ้างซับคอนแทรคลง เพื่อเพิ่มกำไร ปัจจุบัน TDM มีรถขนส่งฯ อยู่จำนวน 200 คัน จะเพิ่มอีก 100 คัน