หุ้นไทยพุ่งแรงสุดในโลก จับตา 1,500 จุดได้เห็นแน่!

ร้อนแรงสุดๆ ในเวลานี้ สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทย ภายหลังได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และสถานการณ์การเมืองเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น หากย้อนกลับไปนับตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.67 จนถึง 12 ก.ย.67 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึงระดับ 132 จุด ร้อนแรงสุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก

โดยปัจจัยผลักดันหลักๆ มาจาก แรงซื้อของนักลงทุนต่าง และสถาบันภายในประเทศ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ตราบไทยที่มีเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าหหุ้นไทยต่อเนื่อง ดัชนีหุ้นไทยจะมีโอกาสทะลุ 1,500 จุดได้ไม่ยาก 

หากถอดมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มีความเห็นว่า ตั้งแต่ 15 ส.ค. – 12 ก.ย. 67 SET INDEX ได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งการได้ นายกฯคนที่ 31 ของไทย, งานแสดงวิสัยทัศน์ของคุณทักษิณในงาน VISION FOR THAILAND และความคืบหน้าของกองทุนวายุภักษ์ 1 

จึงทำให้ SET INDEX ปรับตัวขึ้น ราว  132 จุด หรือ 10.2% จาก 1,289 ไป 1,421 จุด ซึ่งหากพิจารณาเป็นประเภทนักลงทุน จะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติ และสถาบันเป็นคนพยุง SET โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท (Ex Big Lot Sccc) และสถาบันซื้อสุทธิ 4.9 พันล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกัน

โดยในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จะเห็นได้ว่า การที่ SET ปรับตัวขึ้น 10.2% (สูงสุดอันดับ 3 ของโลก) ทิ้งห่างตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลก อาทิ MSCI ACWI ที่บวก 1.1%, NASDAQ ติดลบ 0.1%, CSI300 ติดลบ 5.6% และอื่นๆ โดยตามด้วยตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 5.2% และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 5% อีกทั้งถ้าแปลงเป็นสกุลเงิน  USD SET จะปรับตัวขึ้น 15.3% (สูงสุดอันดับ 1 ของโลก) 

ทั้งนี้จะทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของต่างชาติ ณ ปัจจุบัน สูงขึ้นมาเล็กน้อย โดยสัดส่วนต่างชาติถือครองหุ้นไทยทางตรง เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 24.71% (ณ สิ้นเดือน ก.ค.67 อยู่ที่ 22%) ขณะที่การถือครองผ่าน NVDR อยู่ที่ 5.15% และหากรวมทั้ง 2 ส่วนตอนนี้ ต่างชาติถือหุ้นไทยในสัดส่วน 29.86% ซึ่งยังมีช่องว่างให้เติมเต็มไปสู่ค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 32-35% แสดงให้เห็นว่าต่างชาติยังถือครองหุ้นไทยในสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับในอดีต

โดยฝ่ายวิจัยฯ มองว่า SET INDEX ยังน่าจะเดินหน้าต่อด้วยปัจจัยทาง VALUATION ที่โดดเด่นเมื่อมี FUND FLOW หนุน โดยระดับ MARKET EARNING YIELD GAP น่า ลงทุน ซึ่งระดับดัชนีปัจจุบันที่ 1,421 จุด คิดเป็นตัวเลข MARKET EARNING YIELD GAP ที่ระดับ 3.93% (สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่อยู่ 3.8%) ส่วน TARGET SET ปัจจุบัน 1,450 จุด (อิง MEYG เฉลี่ย 3.8%) 

หากในยาม FUND FLOW ต่างชาติไหลเข้าหุ้น ไทยมากๆ ระดับ MARKET EARNING YIELD GAP -0.5SD ถึง -1.0SD สามารถ ลดลงสู่ระดับ 3.5% ถึง 3.3% ซึ่งแปลงเป็นระดับ TARGET SET ได้ไม่ต่ำกว่า 1,523 จุด และถ้ามีการลดดอกเบี้ยจะขยับไปได้ถึง 1,576 จุด

ดังนั้นตั้งแต่ 15 ส.ค. – 12 ก.ย. 67 SET INDEX ได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย และ ปรับตัวขึ้น 10.2% มากสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งตราบใดที่ FUND FLOW ไหลเข้า เป้าหมาย SET มีโอกาสทะลุ 1,500 จุด ได้ไม่ยาก ตามกลไกการปรับเปลี่ยนระดับ MARKET EARNING YIELD GAP