Wealth Sharing
เช็คลิสต์หุ้นเด่น รับตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมพัฒนาศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิต
16 กันยายน 2567
หากจะพูดถึงนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดทุน หนึ่งในนโยบายที่น่าสนใจก็คือการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว โดยการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป็นผู้นำของอาเซียนในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการซื้อขายคาร์บอนเครดิต
สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า คาร์บอนเครดิตเป็นอย่างไรและมีหน้าตาเช่นไร มันก็คือ จำนวนก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก (จำนวนคาร์บอน) ซึ่งหากบริษัทหรือองค์กรสามารถลดจำนวนการปล่อยต่อปี และเมื่อจำนวนการปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าเกณฑ์จะถูกตีราคาเป็นเงิน ก่อนจะถูกขายเป็นเครดิตให้กับบริษัทและองค์กรอื่นได้
ด้านของตลาดหลักทรัพย์ฯก็ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการเตรียมพัฒนาสัญญามาตรฐานในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและโครงสร้างพื้นฐาน แต่จะมีอะไรบ้างนั้น ทางเราก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลมาฝากให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุน พร้อมกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ
โดยเครื่องมือที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เตรียมพัฒนาและระหว่างในปัจจุบัน จะมีตั้งแต่ระบบจัดการข้อมูล SET ESG Data Platform เพื่อเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูล ESG ของภาคธุรกิจและผู้ลงทุน ระบบ SET Carbon ซึ่งเป็นเครื่องมือคำนวณคาร์บอนฟุตพรินท์ (Carbon Footprint) ให้กับบริษัทจดทะเบียนและผู้ประกอบธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เดินหน้าพัฒนาศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิต-โครงสร้างพื้นฐาน ระบบเก็บข้อมูล - SET Carbon - Standard Master Trading Agreement หนุนประเทศไทยเป็นผู้นำอาเซียนด้านลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ดังนั้น ประเมินจะเป็นปัจจัยบวกต่อ BTC ที่มีการพัฒนา Token เพื่อรองรับการซื้อขาย Carbon Credit ในอนาคตอยู่แล้ว รวมถึงกลุ่มที่มี Carbon Credit ที่สามารถนำมาซื้อขายได้เช่น WAVE, SSP, SPCG, GUNKUL เป็นต้น
ขณะนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ได้ให้มุมมองที่ต่างออกไป โดยนักลงทุนอาจจะตระหนักต่อการรักสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จากการเห็นน้ำท่วมที่เชียงราย และรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญธุรกิจสีเขียว มุ่งสู้การเป็นผู้นำอาเซียนด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผนวกกับ SET เดินหน้าพัฒนาศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิต
ดังนั้น จึงทำการคัดกรองหุ้นที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ 1. หุ้นในบริษัทที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GREENHOUSE GASES หรือ GHG) ในปีลดลง 2566 ลดลงจากปี 2565 คือ KKP, GPSC, RATCH, TU,SCC, BANPU, SIRI, OR, SPRC และ EA
2.หุ้นในบริษัทที่หรือมีการปล่อย GHG น้อยกว่าบริษัทอื่นๆ คือ BAM, TISCO, GUNKUL, TTB, SAWAD, TOA, TASCO, WHA, HANA, OR
สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า คาร์บอนเครดิตเป็นอย่างไรและมีหน้าตาเช่นไร มันก็คือ จำนวนก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก (จำนวนคาร์บอน) ซึ่งหากบริษัทหรือองค์กรสามารถลดจำนวนการปล่อยต่อปี และเมื่อจำนวนการปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าเกณฑ์จะถูกตีราคาเป็นเงิน ก่อนจะถูกขายเป็นเครดิตให้กับบริษัทและองค์กรอื่นได้
ด้านของตลาดหลักทรัพย์ฯก็ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการเตรียมพัฒนาสัญญามาตรฐานในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและโครงสร้างพื้นฐาน แต่จะมีอะไรบ้างนั้น ทางเราก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลมาฝากให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุน พร้อมกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ
โดยเครื่องมือที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เตรียมพัฒนาและระหว่างในปัจจุบัน จะมีตั้งแต่ระบบจัดการข้อมูล SET ESG Data Platform เพื่อเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูล ESG ของภาคธุรกิจและผู้ลงทุน ระบบ SET Carbon ซึ่งเป็นเครื่องมือคำนวณคาร์บอนฟุตพรินท์ (Carbon Footprint) ให้กับบริษัทจดทะเบียนและผู้ประกอบธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เดินหน้าพัฒนาศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิต-โครงสร้างพื้นฐาน ระบบเก็บข้อมูล - SET Carbon - Standard Master Trading Agreement หนุนประเทศไทยเป็นผู้นำอาเซียนด้านลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ดังนั้น ประเมินจะเป็นปัจจัยบวกต่อ BTC ที่มีการพัฒนา Token เพื่อรองรับการซื้อขาย Carbon Credit ในอนาคตอยู่แล้ว รวมถึงกลุ่มที่มี Carbon Credit ที่สามารถนำมาซื้อขายได้เช่น WAVE, SSP, SPCG, GUNKUL เป็นต้น
ขณะนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ได้ให้มุมมองที่ต่างออกไป โดยนักลงทุนอาจจะตระหนักต่อการรักสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จากการเห็นน้ำท่วมที่เชียงราย และรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญธุรกิจสีเขียว มุ่งสู้การเป็นผู้นำอาเซียนด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผนวกกับ SET เดินหน้าพัฒนาศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิต
ดังนั้น จึงทำการคัดกรองหุ้นที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ 1. หุ้นในบริษัทที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GREENHOUSE GASES หรือ GHG) ในปีลดลง 2566 ลดลงจากปี 2565 คือ KKP, GPSC, RATCH, TU,SCC, BANPU, SIRI, OR, SPRC และ EA
2.หุ้นในบริษัทที่หรือมีการปล่อย GHG น้อยกว่าบริษัทอื่นๆ คือ BAM, TISCO, GUNKUL, TTB, SAWAD, TOA, TASCO, WHA, HANA, OR