จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : รัฐบาลแถลงนโยบายหนุน “ศูนย์กลางทางการแพทย์” ติดปีก SMD


17 กันยายน 2567
รัฐบาล “แพทองธาร” ประกาศนโยบาย สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ (Care and Wellness Economy) และบริการทางการแพทย์ (Medical Hub)  กระตุ้นธุรกิจและการเติบโตของ บมจ. เซนต์เมด (SMD)  ฐานะผู้เชี่ยวชาญทำธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์มานานกว่า 25 ปี 

รายงานพิเศษ SMD copy.jpg

ในวันที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ได้กล่าวถึงนโยบายระยะกลาง และระยะยาวของรัฐบาล เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน วางรากฐานสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต  โดยจะส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต   ได้แก่  

2.1 ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy or Eco-friendly Economy) 

2.2 ต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) 

2.3 มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ (Care and Wellness Economy) และบริการทางการแพทย์ (Medical Hub)

นอกจากนี้รัฐบาลจะเร่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัย ประกอบด้วย 

1. ส่งเสริมการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม 

2. ยกระดับทักษะและปลดล็อกศักยภาพของคนไทย เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ 

3. ยกระดับระบบสาธารณสุขให้ดียิ่งกว่าเดิม ต่อยอดจากรัฐบาลที่แล้ว จากพื้นฐานความสำเร็จหลายสิบปีของนโยบาย "30 บาทรักษาทุกโรค" มาเป็น "30 บาทรักษาทุกที่"  

นโยบายด้านการแพทย์และสาธารณสุขของรัฐบาล สอดคล้องในทิศทางเดียวกับการดำเนินกิจการของ บมจ. เซนต์เมด (SMD)  ที่ทำธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์   ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 กลุ่มธุรกิจในเครือได้แก่ 

ธุรกิจที่ 1 เป็นธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ สำหรับใช้ในรถพยาบาล ห้องฉุกเฉิน ห้องไอซียู ห้องซีซียู โอพีดี ไอพีดี ศูนย์โรคหัวใจ และห้องผ่าตัด

ธุรกิจที่ 2 เป็นธุรกิจของ บริษัท เอสเอ็มดีเอกซ์ จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดยบริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ หรือ Medical Service เฉพาะทางด้าน Sleep  Sex  Stress  Syndrome  Slim  Skin ในลักษณะร่วมทุน (PPP) หรือ Revenue Sharing ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก และศูนย์เวลเนสต่างๆ รวมถึงการจัดจำหน่ายเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Medical Service หรือ Medical Wellness ต่างๆ 

ธุรกิจที่ 3 เป็นธุรกิจของ บริษัท เอสเอ็มดีไอ จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดยบริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเฉพาะทางด้านรังสีวินิจฉัยและรังสีรักษา ทั้งในรูปแบบจัดจำหน่ายและร่วมทุนจัดตั้งศูนย์ฉายแสงรักษามะเร็งด้วยเครื่อง CT/Linac และ Proton ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ขั้นสูง กับโรงเรียนแพทย์ และโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทยทั้งภาครัฐและเอกชน

ซึ่ง ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMD คงคาดการณ์รายได้ทั้งปีที่ประมาณ  1,600 ลบ. แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ราว 1,000 ลบ. โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังปีนี้งบประมาณที่ชะลอก็จะเริ่มมีออเดอร์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้คาดหวังช่วงครึ่งหลังรายได้ส่วนนี้จะเติบโตโดดเด่น

ส่วนธุรกิจในกลุ่ม New S Curve ภายใต้ SMDX ซึ่งจะเน้นด้านธุรกิจ เมดิคอล เวลธ์เน็ต คาดว่าจะมีรายได้ ราว 500-600 ลบ.เพิ่มเท่าตัวจากปีก่อนที่มีรายได้ราว 230 ลบ.  ซึ่งโครงสร้างรายได้ในธุรกิจ New S curve บริษัทยังมุ่งเน้นสร้างกระแสรายได้อย่างต่อเนื่อง (Revenue Sharing) ซึ่งเป็นการจับมือกับพันธมิตรทั้งในส่วนของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และการจับมือกับคลินิกสุขภาพ เป็นต้น
SMD