บริษัทในตลาดหุ้นของ 3 เศรษฐีเมืองไทย ปี 67 จะโกยกำไรรวมกัน 1.3 แสนลบ.
ในครั้งนี้ทีมข่าวจะพานักลงทุนมาสำรวจทิศทางธุรกิจของเศรษฐีเมืองไทย โดยในปี 2567 หุ้นกลุ่มนี้จะมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม GULF ของนายสารัชถ์ รัตนาวะดี รวมทั้งกลุ่มซีพี ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ และกลุ่ม “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี”
โดยจากการรวบรวมของทีมข่าว พบว่า หุ้นในกลุ่ม “สารัชถ์ รัตนาวะดี” มีคาดการณ์กำไรจากนักวิเคราะห์ปี 2567 รวมกันที่ 65,410 ล้านบาท ส่วน กลุ่มซีพี คาดมีกำไรรวมกันที่ 54,518 ล้านบาท และกลุ่ม “เสี่ยเจริญ” คาดจะมีกำไรที่ 10,654 ล้านบาท ทำให้ทั้ง 3 กลุ่มจะมีกำไรปี 67 รวมกันกว่า 130,582 ล้านบาท
เริ่มกันที่หุ้นในกลุ่ม “สารัชถ์ รัตนาวะดี” อย่าง GULF ที่ปัจจุบันในอย่างระหว่างควบรวมกิจการกับ INTUCH โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) คาดปี 2567 มีกำไรสุทธิ 18,069 ล้านบาท เติบโต 21% จากปีก่อน เนื่องจาก 1.การรับรู้กำไรเต็มปีของ GPD หน่วยที่ 1-2 (รวม 1,325 MW)
2.เริ่มต้นรับรู้กำไร GPD หน่วยที่ 3 COD 31 มี.ค. และ หน่วยที่ 4 COD 1 ต.ค. (รวม 1,325 MW); 3.เริ่มต้นรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรง IPP หินกอง หน่วยที่ 1 770 MW COD 1 มี.ค.; และ 4.คาดว่ากำไรจาก SPP จะเพิ่มขึ้น ตาม
ต้นทุนก๊าซที่ลดลงมากกว่าราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ลดลง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 52 บาท
ส่วน INTUCH นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดปี 2567 จะมีกำไรสุทธิ 13,452 ล้านบาท เติบโต 2% จากปีก่อน เนื่องจากรายได้หลักและกำไรของ INTUCH มาจาก ADVANC ทำให้ต้องปรับประมาณการกำไรปี 2567 – 2568 และราคาเป้าหมายของ INTUCH เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ ADVANC ขึ้นไปแล้วในวันก่อนนี้ ซึ่งจะทำให้ INTUCH ได้ส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เฉลี่ย 10% แนะนำ “Outperform” ราคาเป้าหมาย 95.00 บาท
โดย ADVANC แนวโน้มกำไรปกติในช่วงครึ่งหลังของปี 67 ที่น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ทำให้ต้องปรับประมาณการกำไรในปี 2567 – 68 ของ ADVANC ขึ้นส่งผลให้ประมาณการปี 2567 ปรับขึ้นเป็น 33,683 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน แนะนำ “Outperform” ราคาเป้าหมาย 277 บาท
ขณะที่ THCOM นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดปี 2567 จะมีกำไร 206 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน สะท้อนกำไรปกติครึ่งปีหลัง 67 ที่ดีขึ้นจากครึ่งปีแรกอยู่แล้ว หรือสะท้อนว่า THCOM จะปิดดีลได้บางส่วนในครึ่งหลังหลัง 67 แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 17 บาท
ส่วนฝั่งหุ้นในกลุ่ม นายธนินท์ เจียรวนนท์ โดยเริ่มกันที่ CPALL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดปี 2567 จะมีกำไร 21,211 ล้านบาท เติบโต 17% จากปีก่อน โดยแนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปี 67 ที่มีโอกาสเติบโตจากครึ่งปีแรก คาดไตรมาส 4/67 จะเด่นมากสุด หนุนจากช่วง High Season และเม็ดเงินจากนโยบาย Digital Wallet หากเริ่มใช้ได้ตามแผนรัฐบาล คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 76.00 บาท
ต่อกันที่ CPF นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มไตรมาส 3/67 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ราว 7 พันล้านบาท จากราคาหมูไทย เวียดนาม จีนฟื้นกลับมาสูงกว่าต้นทุนการเลี้ยงทั้งหมด ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67 เพิ่มขึ้น 59% มาอยู่ที่ 15,675 ล้านบาท พลิกมีกำไรจากปีก่อนขาดทุน แนะนำเป็น ซื้อ ราคาเป้าหมาย 31 บาท
ขณะที่ CPAXT นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินปี 67 จะมีกำไร 10,906 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน โดยคาดครึ่งหลัง จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากครึ่งปีแรก แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย ก่อนและหลังควบบริษัทที่ 40 บาท และ 41 บาท/หุ้น
ด้าน TRUE นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2567-2568 ขึ้น 90% และ 24% ตามลำดับ เป็นคาดกำไรปกติปี 2567 ที่ 6,726 ล้านบาท และคาดกำไรปกติปี 2568 ที่ 17,931 ล้านบาท หลักๆ 1.จากปรับเพิ่มสมมติฐานการเติบโตของ Service revenue ex. IC ในปี 2567 เป็น 4.4% จาก 3.7% เทียบกับเป้าหมาย ของบริษัทฯ ที่ 4-5%
2.ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจขายอุปกรณ์จากขาดทุน 2% เป็น 0% และ 3.ปรับลดสมมติฐานดอกเบี้ยจ่ายจาก 2.4 หมื่นล้านบาท ลงเป็น 2.28 หมื่นล้านบาท ผลบวกของการ Rollover Bond ที่ทำได้ดีกว่าคาด แนะนำ“ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.80 บาทต่อหุ้น
ส่วนกลุ่ม “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” นับเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นหลายบริษัท แต่ครึ่งนี้ทีมงานได้คัดเลือกบริษัทที่มีการประเมินปัจจัยพื้นฐานมาฝากนักลงทุน เริ่มที่ AWC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มอง AWC เป็นหุ้นในธีมการเติบโต ด้วยจำนวน 10 โรงแรมที่มีกำหนดการเปิดตัวทั่วไทยในช่วงปี 2567-70 ส่งผลให้อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมของกำไรที่ 29% แนะนำ ซื้อ สำหรับการเติบโตในระยะยาว ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท โดยคาดปี 2567 จะมีกำไรสุทธิ 5,726 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน
ขณะที่ BJC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 32 บาท คาดกำไรครึ่งหลังปีนี้ฟื้นตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากครึ่งปีแรก ตามยอดขายจะเร่งขึ้นจากการออกสินค้าใหม่ SSSG ฟื้น ในขณะที่ GPM จะดีขึ้นด้วย รวมทั้งได้ประโยชน์อันดับต้นๆจากนโยบาย Digital wallet ของรัฐบาลใหม่ คาดปี 67 มีกำไร 4,928 ล้านบาท เติบโต 4% จากปีก่อน