รายงานพิเศษ : SSP เปิดกลยุทธ์ตั้งเป้าเป็น Renewable ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดทุกประเภท

บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์  (SSP) ตั้งเป้าเป็น Renewable เดินหน้าผลิตลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดทุกประเภท  เน้นร่วมมือกับพันธมิตร ขยายตลาดในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด หนุนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก


 
ปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ทำได้จากหลายแหล่งทั้งพลังงานแสงอาทิตย์  พลังงานลม  พลังงานน้ำ และการผลิตไฟฟ้าจากขยะมูลฝอย  ซึ่งแหล่งพลังงานแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันเกี่ยวกับปริมาณการผลิตไฟฟ้าแต่ละช่วง  โดยเฉพาะในเรื่องของฤดูกาลเป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า ดังนั้นนโยบายการทำธุรกิจของ บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ ) (SSP) จะเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าทุกประเภท เพื่อสร้างเสถียรภาพในการผลิตไฟฟ้า
 
ซึ่งนายวรุตม์  ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP ย้ำว่า บริษัทฯอยากให้นักลงทุนมองว่า  SSP ลงทุนโรงไฟฟ้าทุกประเภท เพราะตั้งใจเป็นRenewable หรือ พลังงานที่ไม่มีวันหมด โดยบริษัทจะพิจารณาเลือกลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า สามารถสร้างความสม่ำเสมอของกระแสเงินสดได้อย่างมั่นคง
 
ปัจจุบันบริษัทฯยังมีแผนขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และมีโครงการอื่นๆในมือที่รอพัฒนา เช่น โครงการวินฟาร์มในประเทศฟิลิปปินส์ กําลังการผลิตติดตั้ง150เมกะวัตต์  โครงการโซล่าร์ฟาร์มไต้หวันเฟส 2 รวมไปถึงการลงทุนตามแผน PDP ของประเทศไทย ที่คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในสิ้นปี2567นี้
 
ซึ่งล่าสุดบริษัทยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ โดยการลงทุนในครั้งนี้เป็นการเพิ่มการลงทุนโรงไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานชนิดใหม่ที่จะช่วยเพิ่มความหลากหลาย  สร้างรายได้และผลตอบแทนให้กับบริษัท  ควบคู่การลดขยะชุมชนพร้อมไปสู่มาตรฐานของโรงไฟฟ้าผ่านการประสานความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชน ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท ในการสร้างความหลากหลายทางพลังงานทดแทนพร้อมกันกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มสินทรัพย์ของบริษัทเติบโตเป็น 2 เท่าภายในปี 71
 
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานจากขยะ Wikipedia ให้ข้อมูลว่า ประเทศไทยประสบปัญหาการจัดการขยะชุมชนมาช้านาน จากการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้เกิดปัญหาขยะเพิ่มมากขึ้น ในระยะแรกการฝังกลบ แต่ปัจจุบันพื้นที่สำหรับฝังกลบหายากขึ้น ทำให้การกำจัดโดยการเผา เป็นวิธีที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และเป็นประโยชน์จากขยะมากที่สุด น่าจะเป็นทางเลือกที่นำมาใช้
 
ข้อดีของการผลิตไฟฟ้าจากขยะ คือ เป็นแหล่งพลังงานราคาถูก ช่วยลดปัญหาการกำจัด ขยะแต่ก็มีข้อจำกัดเช่น โรงไฟฟ้าขยะมักได้รับการต่อต้านจากชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง เทคโนโลยีบางชนิดใช้เงินลงทุนสูง มีค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะให้เหมาะสมก่อนนำไปแปรรูปเป็นพลังงาน ต้องมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการจัดการกับฝุ่นควันและสารที่เกิดขึ้นจากการเผาขยะ อีกทั้งข้อจำกัดทางด้านการเป็นเจ้าของขยะ เช่น ผู้ลงทุนตั้งโรงไฟฟ้าอาจไม่ใช่เจ้าของขยะ (เทศบาล) ทำให้กระบวนการเจรจาแบ่งสรรผลประโยชน์มีความล่าช้า
 
การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะยังสามารถลดการปล่อยแก๊สที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกจากการเผา และยังสามารถลดการใช้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ (Fossil fuel) ที่จะนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้อีกด้วย โดยทางประเทศเกาหลีใต้กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพลังงานขยะจะสามารถลดการนำเข้าน้ำมันของประเทศได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงการลดปริมาณการปล่อยแก๊สเรือนกระจกได้กว่า 1.37 ล้านตันต่อปี