ต่างชาติลุยซื้อ 4 หุ้นบิ๊กแคปเดือนก.ย. BH, BDMS, CPALL, GULF GULF แชมป์ราคาวิ่ง-มาร์เก็ตพุ่งเฉียด 7 แสนลบ.
จากกรณีที่บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า 4 หุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อมากในเดือนนี้ และคาดว่ามีโอกาสถูกซื้อต่อ คือ BH, BDMS, CPALL, GULF ทั้งนี้ เหตุที่ไม่รวมหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ฝรั่งซื้อมาก เนื่องจากหุ้นธนาคาร ถูก downgrade โดยโบรกต่างประเทศหลัง Fed ปรับลดดอกเบี้ย
เมื่อสำรวจการเคลื่อนไหวราคาหุ้นบิ๊กแคปตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนถึงวันที่ 20 กันยายน 2567 ในกลุ่มที่ต่างชาติซื้ออย่างต่อเนื่อง พบว่า หุ้น GULF เป็นหุ้นที่มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสุด 11.82 % จากราคา 50.50 บาท มาอยู่ที่ 56.75 บาท ขณะเดียวกันหากพิจารณาที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 665,856,262,386.50 ล้านบาท
รองลงมาเป็นหุ้น BH เพิ่มขึ้น 11.02 % จากราคา 244 บาท มาอยู่ที่ 272 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 216,217,136,224 ล้านบาท BDMS เพิ่มขึ้น 9.91 % จากราคา 27.75บาท มาอยู่ที่ 30.5 บาทมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 484,706,057,797.50 ล้านบาท CPALL เพิ่มขึ้น 7.44 % จากราคา 60.25บาทมาอยู่ที่ 65 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 583,901,587,620 ล้านบาท
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) เผยแพร่บทวิเคราะห์ระบุว่า ได้ปรับลดคำแนะนำ GULF และ INTUCH ลงเป็น “TRADING”เนื่องจากที่่ผ่านมา GULF และ INTUCH ได้มีการเปิดเผยรายงานของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เกี่ยวกับดีลการควบรวมระหว่าง GULF-INTUCH หลักๆ เป็นการชี้แจงเหตุผลของการทำธุรกรรม วิธีการประเมินมูลค่า การให้งบเสมือนย้อนหลัง การคิด Swap Ratio และคำแนะนำในเชิงสนับสนุนดีล เบื้องต้นไม่ได้มีประเด็นที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในด้านเงื่อนไขและราคาของดีล แต่เป็นการให้รายละเอียดเพิ่มเติมในแง่การคำนวณที่มาของตัวเลขเป็นหลัก สาระสำคัญที่น่าสนใจ เช่น
IFA ประเมินว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวมีข้อดีคือ 1) ช่วยลดความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มฯ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน 2) เพิ่มโอกาสของ New Co. ในการเพิ่มรายได้จากการให้บริการอื่นๆ ของ New Co. และผลประโยชน์ที่อาจเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ในอนาคต 3) เสริมสร้างศักยภาพทางด้านการเงิน 4) ยกระดับความน่าสนใจของหุ้นใน New Co. ต่อนักลงทุนและ 5) กระจายความเสี่ยงในเชิงธุรกิจ ขณะที่ข้อด้อยคือ 1) ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการควบรวม 2) สัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ จะลดลงใน New Co. 3) ผู้ถือหุ้นอาจได้รับการจัดสรรไม่ครบหน่วยการซื้อขายและ 4)ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเสียภาษีสำหรับผู้ถือหุ้นเดิมที่คัดคารการทำธุรกรรมดังกล่าว
ในส่วนของ Swap Ratio และระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินธุรกรรมยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม (สำหรับ GULF 1 หุ้นเดิมต่อ 1.02974 หุ้นใน New Co. และสำหรับ INTUCH 1 หุ้นเดิมต่อ 1.69335 หุ้นใน New Co.)
บริษัทฯ ได้มีการเปิดเผยงบการเงินเสมือนของ New Co. สำหรับปี 2565-2566 และ 1H67 หากอิงงบเสมือนสำหรับงวด 1H67 จะพบว่าสินทรัพย์รวมของ New Co. จะอยู่ที่ 6.39 แสนล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวมที่ 2.72 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสินทรัพย์รวมและส่วนของผู้ถือหุ้นรวมระหว่าง GULF-INTUCH ราว 1.16 แสนล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการตัดรายการเงินลงทุนใน INTUCH และการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมของ ADVANC รวมถึงการกลับรายการระหว่าง GULF-INTUCH ในอดีต
สำหรับงบกำไรขาดทุนเสมือนในงวด 1H67 กำไรสุทธิของ New Co. จะอยู่ที่ 9,831 ล้านบาท ลดลงจากกำไรขาดทุนรวมของ GULF-INTUCH จำนวน 5,116 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการหักรายการส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH ของ GULF
ทั้งนี้ IFA ให้ความเห็นว่าธุรกรรมการควบรวมระหว่าง GULF-INTUCH มีความสมเหตุสมผลและมีความเหมาะสมและเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจ ดังนั้น IFA จึงมองว่าผู้ถือหุ้นควรพิจารณาอนุมัติการเข้าทำธุรกรรม Amalgamation ในครั้งนี้
ลำดับ Timeline สำคัญถัดไปของดีลจากนี้คือการประชุมผู้ถือหุ้นของ GULF และ INTUCH ในวันที่ 3 ต.ค. เพื่ออนุมัติการเข้าทำธุรกรรม (คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 75%)
IFA ประเมินว่าราคาหุ้น GULF และ INTUCH ที่ปรับตัวสูงขึ้นมาเกินกว่า 45 บาทและ 76 บาท ตามลำดับ เป็นความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้ธุรกรรมดังกล่าวไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นจากปริมาณซื้อขายในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าก่อนเกิดธุรกรรมมากดังนั้นเราจึงยังคงมองว่าดีลดังกล่าวจะยังสามารถเดินหน้าต่อได้
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อรายงานดังกล่าว เรามีมุมมองใกล้เคียงกับ IFA ที่ดีลเป็นดีลที่ดีระยะยาวต่อทั้งผู้ถือหุ้น GULF และ INTUCH ที่จะเปลี่ยนไปเป็น NewCo.
เราอยู่ระหว่างประเมินมูลค่า NewCo ระหว่างนั้น เราคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ของ GULF และ INTUCH ที่ 55.50 บาท/หุ้น และ 91.50 บาท/หุ้น ระยะยาวยังประเมินหุ้นทั้งสองยังไปต่อได้โดยเฉพาะหลังเปลี่ยนเป็น NewCo. แล้ว แต่ระยะสั้นเนื่องจากราคาหุ้นปรับขึ้นร้อนแรงจน Upside เริ่มจำกัดทำให้เราปรับลดคำแนะนำของทั้ง GULF และ INTUCH ลงเป็น “TRADING” เชิงกลยุทธ์อาศัยแรงส่งของการเก็งกำไรแรงซื้อจากกองทุนวายุภักษ์และตาราง Swap Ratio ในการเปรียบเทียบหุ้นเพื่อในหาจังหวะทำกำไร