กระดานข่าว
“เจ้าสัว (CHAO)” ตั้งบริษัทย่อยในสหรัฐฯ นำขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ ติดปีกเจาะทวีปอเมริกาเหนือ
24 กันยายน 2567
บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO พาขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ โกอินเตอร์ ประกาศจัดตั้งบริษัทย่อยในสหรัฐฯ เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ รับเทรนด์ Better-for-You Snack คาดจัดตั้งแล้วเสร็จ พร้อมส่งออเดอร์ธันวาคมนี้ ปูพรมบุกอเมริกาเหนือต่อเนื่อง
นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เจ้าสัว” ยังคงเดินหน้าขยายตลาดในต่างประเทศ เพื่อครองความเป็นเจ้าตลาดขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ ปัจจุบัน บริษัทฯ กำลังดำเนินการจัดตั้ง “Chaosua Foods USA LLC” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งใหม่ที่สหรัฐอเมริกา โดยถือหุ้นในสัดส่วน 51% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ร่วมกับพาร์ทเนอร์ AS World USA LLC ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการกระจายสินค้าไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา ไปยัง Asian Supermarkets และ Mainstreams เช่น Costco, Trader Joes, Walmart เป็นต้น และมีความสัมพันธ์อันดีกับ Distributor ที่ช่วยในการกระจายสินค้าเข้าไปในตลาดดังกล่าว เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยว อาทิ ข้าวตัง และแครกเกอร์ธัญพืช เป็นต้น ภายใต้ตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ
ทั้งนี้ คาดว่า บริษัทย่อยแห่งใหม่ จะสามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2567 และเดินหน้าขยายการเติบโต โดยไม่ต้องมีการลงทุนเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบัน บริษัทฯ เตรียมส่งมอบสินค้า เพื่อกระจายให้ลูกค้าในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีหน้า
“บริษัทเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งบริษัทฯ ร่วมกันในครั้งนี้ จะเป็นการเร่งขยายการเติบโตในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยบริษัทต้องการเปิดเกมรุกนำแบรนด์เจ้าสัวสู่ตลาดโลก ตามกลยุทธ์ Bring Local to Global” นางสาวณภัทร กล่าว
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์ การขยายตลาดขนมขบเคี้ยวที่สหรัฐอเมริกานับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่บริษัทให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ของผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว หรือกลุ่ม Snack จากจำนวนผู้บริโภคที่มีจำนวนมาก และมีกำลังซื้อสูง โดย บริษัทวิจัยตลาด ยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor) เปิดเผยข้อมูลว่า มูลค่าค้าปลีกของขนมกรุบกรอบ (Salty Snacks) ของสหรัฐฯ ปี 2567 อยู่ที่ 38,805.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากปีก่อนหน้า และคาดว่าอุตสาหกรรมขนมกรุบกรอบในสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคชาวอเมริกันมีแนวโน้มรักษาสุขภาพมากขึ้น และขนมกรุบกรอบที่มีโปรตีนสูง (Protein snack) มีแนวโน้มจะได้รับความนิยม ทำให้ขนมที่ทำจากเนื้อสัตว์เป็นตัวเลือกสำหรับผู้บริโภค ถือเป็นโอกาสของบริษัทฯ นำเสนอสินค้าไทยที่มีศักยภาพ มาตรฐานในระดับสากล ด้วยวัตถุดิบชั้นยอด ทั้งผลิตภัณฑ์ข้าวตัง รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทย และแครกเกอร์ธัญพืชที่จัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าขนมขบเคี้ยวที่มีอยู่ในตลาด จึงทำให้สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการขนมขบเคี้ยวที่มีรสชาติอร่อย สะดวกในการรับประทาน และมีคุณค่าทางสารอาหารสูง ตอกย้ำ “เจ้าสัว” เป็นเจ้าตลาดขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค (Better-for-You Snack) ขยายตลาดสู่ระดับสากลได้อีกขั้น
นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เจ้าสัว” ยังคงเดินหน้าขยายตลาดในต่างประเทศ เพื่อครองความเป็นเจ้าตลาดขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ ปัจจุบัน บริษัทฯ กำลังดำเนินการจัดตั้ง “Chaosua Foods USA LLC” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งใหม่ที่สหรัฐอเมริกา โดยถือหุ้นในสัดส่วน 51% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ร่วมกับพาร์ทเนอร์ AS World USA LLC ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการกระจายสินค้าไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา ไปยัง Asian Supermarkets และ Mainstreams เช่น Costco, Trader Joes, Walmart เป็นต้น และมีความสัมพันธ์อันดีกับ Distributor ที่ช่วยในการกระจายสินค้าเข้าไปในตลาดดังกล่าว เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยว อาทิ ข้าวตัง และแครกเกอร์ธัญพืช เป็นต้น ภายใต้ตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ
ทั้งนี้ คาดว่า บริษัทย่อยแห่งใหม่ จะสามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2567 และเดินหน้าขยายการเติบโต โดยไม่ต้องมีการลงทุนเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบัน บริษัทฯ เตรียมส่งมอบสินค้า เพื่อกระจายให้ลูกค้าในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีหน้า
“บริษัทเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งบริษัทฯ ร่วมกันในครั้งนี้ จะเป็นการเร่งขยายการเติบโตในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยบริษัทต้องการเปิดเกมรุกนำแบรนด์เจ้าสัวสู่ตลาดโลก ตามกลยุทธ์ Bring Local to Global” นางสาวณภัทร กล่าว
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์ การขยายตลาดขนมขบเคี้ยวที่สหรัฐอเมริกานับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่บริษัทให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ของผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว หรือกลุ่ม Snack จากจำนวนผู้บริโภคที่มีจำนวนมาก และมีกำลังซื้อสูง โดย บริษัทวิจัยตลาด ยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor) เปิดเผยข้อมูลว่า มูลค่าค้าปลีกของขนมกรุบกรอบ (Salty Snacks) ของสหรัฐฯ ปี 2567 อยู่ที่ 38,805.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากปีก่อนหน้า และคาดว่าอุตสาหกรรมขนมกรุบกรอบในสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคชาวอเมริกันมีแนวโน้มรักษาสุขภาพมากขึ้น และขนมกรุบกรอบที่มีโปรตีนสูง (Protein snack) มีแนวโน้มจะได้รับความนิยม ทำให้ขนมที่ทำจากเนื้อสัตว์เป็นตัวเลือกสำหรับผู้บริโภค ถือเป็นโอกาสของบริษัทฯ นำเสนอสินค้าไทยที่มีศักยภาพ มาตรฐานในระดับสากล ด้วยวัตถุดิบชั้นยอด ทั้งผลิตภัณฑ์ข้าวตัง รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทย และแครกเกอร์ธัญพืชที่จัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าขนมขบเคี้ยวที่มีอยู่ในตลาด จึงทำให้สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการขนมขบเคี้ยวที่มีรสชาติอร่อย สะดวกในการรับประทาน และมีคุณค่าทางสารอาหารสูง ตอกย้ำ “เจ้าสัว” เป็นเจ้าตลาดขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค (Better-for-You Snack) ขยายตลาดสู่ระดับสากลได้อีกขั้น