“เซียนฮง” เซียนหุ้นไอพีโอ? ปีนี้ฟันกำไรจากการได้หุ้น IPO แล้ว 100 ล้านบาท
“เซียนฮง” หรือ สถาพร งามเรืองพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่ ที่เคยสร้างเสียงฮือฮา หลังเข้าถือหุ้นบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR โดยในช่วงเวลานั้นมีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2 ซึ่งเป็นรองแค่ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 1 อย่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT
ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน เซียนฮง ได้รับการจัดสรรหุ้น IPO ไปแล้วกว่า 4 บริษัท คาดใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 330.41 ล้านบาท
“เซียนฮง” ได้รับจัดสรร หุ้นไอพีโอบริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI กว่า 4,268,000 หุ้น ราคาไอพีโอ 3.10 บาท/หุ้น คาดใช้เงินลงทุนราว 13.02 ล้านบาท
โดย SEI ทำราคาเปิดเทรดวันแรกที่ 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.40 บาท หรือ 141.94% เทียบราคาไอพีโอ เท่ากับว่า เซียนฮงฟันกำไรไปแล้วกว่า 18.77 ล้านบาท
ขณะที่หากย้อนกลับก่อนหน้านี้ เซียนฮง ได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอเช่นกัน เริ่มที่ บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LTS ได้รับจัดสรร 4 ล้านหุ้น ราคาไอพีโอ 3.00 บาท/หุ้น คาดใช้เงินลงทุน 12 ล้านบาท โดยราคาเปิดเทรดวันแรกที่ 5.90 บาท เหนือจอง 96.67% เท่ากับว่ามีกำไรไปแล้วกว่า 11.60 ล้านบาท
รวมทั้งบริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ที่ได้รับการจัดสรร 6 ล้านหุ้น ราคาไอพีโอ 39.00 บาท/หุ้น ใช้เงินลงทุน 234 ล้านบาท โดยเปิดเทรดวันแรกที่ 48.00 บาท เหนือจอง 23% เท่ากับว่ามีกำไรไปแล้วกว่า 54 ล้านบาท
และหุ้นบริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO ที่ได้รับการจัดสรร 6,050,000 หุ้น มีราคาไอพีโอ 11.80 บาท/หุ้น โดยคาดใช้เงินลงทุน 71.39 ล้านบาท ซึ่ง CHAO มีราคาเปิดเทรดวันแรกที่ 14.70 บาท เพิ่มขึ้น 2.90 บาท หรือ 24.58% เท่ากับว่ามีกำไรไปแล้วกว่า 17.54 ล้านบาท
หรือ เซียนฮง...กลายเป็นสัญลักษณ์หุ้น IPO ไปเสียแล้ว โดยทั้ง 4 บริษัท ที่เซียนฮงได้รับการจัดสรรหุ้น IPO หากขายที่ราคาดังกล่าว จะมีกำไรรวมกันกว่า 100 ล้านบาท
และหากเข้าไปสำรวจพอร์ตหุ้นรวมของเซียนฮง อ้างอิงภาพรวมผู้ถือหุ้นสิ้นสุดเดือน ส.ค.2567 (ไม่นับรวม 4 หุ้น IPO ดังกล่าว) และอ้างอิงราคาหุ้น ณ วันที่ 23 ก.ย.2567 พบว่า มีการถือครองหุ้นกว่า 15 บริษัท คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3,527 ล้านบาท
โดยในพอร์ตมีการถือหุ้น BE8 จำนวน 20,141,760 หุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 416 ล้านบาท, BVG จำนวน 4,185,600 หุ้น มูลค่า 13 ล้านบาท, CCET จำนวน 132,320,700 หุ้น มูลค่า 489 ล้านบาท
DITTO จำนวน 42,039,404 หุ้น มูลค่า 832 ล้านบาท, KLINIQ จำนวน 4,591,300 หุ้น มูลค่า 165 ล้านบาท, MALEE จำนวน 25,001,400 หุ้น มูลค่า 325 ล้านบาท, MICRO จำนวน 24,357,300 หุ้น มูลค่า 47 ล้านบาท
MOSHI จำนวน 2,209,200 หุ้น มูลค่า 101 ล้านบาท, PROUD จำนวน 11,000,000 หุ้น มูลค่า 15 ล้านบาท, ROJNA จำนวน 22,606,500 หุ้น มูลค่า 151 ล้านบาท
STA จำนวน 21,569,800 หุ้น มูลค่า 496 ล้านบาท, TAN จำนวน 1,719,400 หุ้น มูลค่า 15 ล้านบาท, TEAMGจำนวน 41,232,080 หุ้น มูลค่า 200 ล้านบาท, TKN จำนวน 19,768,200 หุ้น มูลค่า 217 ล้านบาท และ TRP จำนวน 4,200,000 หุ้น มูลค่า 39 ล้านบาท