โบรกฯ สั่ง “ขายทำกำไร” SCGP เหตุกำไรไตรมาส 3 แย่กว่าคาด ต้นทุนพุ่ง หั่นคาดการณ์กำไรลง 19%
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองต่อหุ้น SCGP โดยแนะนำขายทำกำไร เนื่องจากระยะสั้นมีแรงกดดันต่อประมาณการกำไร โดยมีปัจจัยลบต่อแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ที่จะแย่กว่าที่เคยประเมิน ลดลงทั้งช่วงเดียวกันและไตรมาสก่อน
ด้วยปริมาณขาย integrated packaging ที่ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า แม้วันหยุดลดลง ฉุดจากปริมาณขายของ fajar ลดลงระดับตัวเลขสองหลัก (จากเดิมคาดทรงตัว) กระทบจากส่งออกไปจีนได้น้อย โดย ก.ย. ยังไม่ฟื้น นอกจากนี้การขายฝั่ง Food service ชะลอตามความต้องการของสหภาพยุโรป
รวมไปถึงการปรับขึ้นราคาขายทำได้ช้า ในขณะที่ต้นทุนกระดาษเพิ่มขึ้นกว่า 5% จากไตรมาสก่อนหน้าและราคาขายของ Fibrous chain ลดลงมากกว่าคาด กลบค่าใช้จ่ายปิดซ่อมที่ลดลง ดังนั้น จึงอยู่ระหว่างปรับลดประมาณการกำไร เบื้องต้นคาดประมาณการกำไรปกติปี 2567 มีดาวน์ไซต์ 10-15% เหลือราว 5 - 5.2 พันล้านบาท
เช่นเดียวกันกับนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่าปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจในไตรมาส 3/67 ค่อนข้างเป็นลบ โดยเฉพาะต้นทุนเศษกระดาษที่ปรับตัวสูงขึ้นสวนทางราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ปรับตัวลง และเงินบาทที่แข็งค่าเร็วกระทบต่อภาคการส่งออก นอกจากนี้ SCGP จะรับรู้ผลขาดทุนจาก Fajar เพิ่มขึ้น หลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 55% เป็น 99% ในเดือน ส.ค ที่ผ่านมา
สำหรับแผนธุรกิจ 6 ปีข้างหน้า ให้ความสำคัญต่อการเพิ่มผลตอบแทนจากสินทรัพย์เดิมพร้อมขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศและมุ่งเน้นสินค้าปลายน้ำมากขึ้น ดังนั้น จึงได้ปรับประมาณการกำไรปี 67-68 ลงเฉลี่ย 19% สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจจีนฟื้นช้า ส่งผลไปถึงราคาผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคและการฟื้นตัวของ Fajar พร้อมกับลดน้ำหนักการลงทุนเป็น Underperform และประเมินราคาเหมาะสมที่ 36 บาท