กระดานข่าว

FSS และ GLOBLEX เชียร์ “ซื้อ” CH ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท


26 กันยายน 2567

FSS และ GLOBLEX แนะนำ “ซื้อ” CH ด้วยราคาเป้าหมาย 3.50 บาท มั่นใจธุรกิจโตต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ พร้อมรับอานิสงส์คําสั่งซื้อจากตลาดสหรัฐอเมริกา ก่อนเกิดสงครามการค้า สหรัฐ-จีน ประกอบกับเป็นช่วง High season ธุรกิจ ด้าน CH มั่นใจแนวโน้มโตแกร่ง เตรียมเปิดคลังจัดเก็บวัตถุดิบใหม่ หนุนการผลิต ควบคู่การบริหารจัดการต้นทุน ดันธุรกิจครึ่งปีหลังโดดเด่น

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CH_06 (1).jpg

FSS มอง CH เติบโตก้าวกระโดด ประเมินราคาเป้าหมาย 3.50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมายที่ 3.50 บาท อิงจากกําไรช่วงไตรมาส 2/2567 ที่ 196% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567ก่อน และเพิ่มขึ้น 374% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ดีกว่าที่คาดไว้ถึง 20% สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 69.3 ล้านบาท จากอัตรากําไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด โดยทําได้สูงถึง 23.0% ส่งผลให้กําไรปกติงวดครึ่งปีแรก 2567 โตก้าวกระโดดกว่า 9 เท่าจากครึ่งแรกของปีก่อน เป็น 92.6 ล้านบาท

และยังคงแนะนำ “ซื้อ” ปัจจัยสนับสนุนจาก ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท อีกทั้งกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักอย่างผลไม้อบแห้ง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ (มีอัตรากําไรขั้นต้น 23.5% สูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารแม้จะเพิ่มขึ้น ตามยอดขายแต่ยังควบคุมได้ดี ดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้นแต่ไม่มีนัยยะต่อผลประกอบการ ฐานะการเงินแกร่งเพราะเพิ่งเพิ่มทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ Net IBD/E ตํ่า 0.2x

GLOBLEX แนะนำ CH ด้วยราคาเป้าหมาย 3.50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ที่เติบโตอย่างมาก จากการใช้  กลยุทธ์ด้านราคา และการผลิตที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วงครึ่งปีแรก 2567 บริษัทได้รับคำสั่งซื้อครอบคลุมเป้ารายได้ปี 2567 ที่ 1,900 ล้านบาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 ที่ 71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 และเพิ่มขึ้น 230% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เมื่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น 26% 

เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 และ เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยหลักมาจากการขายผลไม้อบแห้งเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 และเพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะการขายในประเทศที่เติบโตสูงเพิ่มขึ้น 74% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 และ เพิ่มขึ้น 91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 22%) และการขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567  และเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 78%) ขณะที่บริษัทคงราคาขายให้เท่ากับปีก่อน จึงเป็นราคาที่แข่งขันได้ ประกอบกับเป็นช่วง High season ทำให้มีคำสั่งซื้อจำนวนมาก นอกจากนี้บริษัทสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ อย่างมีประสิทธิภาพมีเปอร์เซ็นต์ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 9.5% ลดลงจาก 11.1% ในช่วงไตรมาส 1/2567 และ 9.6% ใน ไตรมาส 2/2566 ส่งผลให้มีอัตรากำไรสุทธิที่ 11% เพิ่มขึ้น 4% ในช่วงไตรมาส 2/2566 และ 7% ในช่วงไตรมาส 1/2567 โดยครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 105 ลบ. เพิ่มขึ้น 560% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

อย่างไรก็ตาม GLOBLEX ได้วิเคราะห์ราคาเป้าหมายไว้ที่ 3.50 บาท และแนะนำ “ซื้อ”

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH ผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ เปิดเผยทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 แนวโน้มเติบโตดีโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร โดยมีเป้าหมายรายได้ วางไว้ 1,900 ล้านบาท จากปัจจัยสนับสนุนด้านสภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้ง ภาคการท่องเที่ยวในประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซัน ส่งเสริมให้การบริโภคอาหารแปรรูปและขนมมีความคึกคักขึ้น ช่วยสร้างยอดขายและสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้ารับผลิตสินค้าตามแบบที่ลูกค้ากำหนด OEM แบบ One Stop Service ชูจุดแข็งนวัตกรรมการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยเครื่องจักรและระบบบริหารจัดการที่ทันสมัย ในราคาที่คุ้มค่ามีความหลากหลายของดีไซน์ พร้อมผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อวางจำหน่าย รวมถึงการวางกลยุทธ์ ทั้งด้านการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานระดับสากล และนวัตกรรมการจัดเก็บวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ส่งผลให้มีวัตถุดิบเพียงพอต่อคำสั่งซื้อทั้งปี โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง 89% ปลากระป๋อง 10% ขนมเพื่อสุขภาพ 1%” นายศักดา กล่าว