รายงานพิเศษ : “SM”วาง 3 ยุทธศาสตร์ ดันรายได้ปีนี้โตทำสถิติสูงสุดใหม่

บมจ.สตาร์ มันนี่ (SM) ราชาสินเชื่อเงินผ่อนภาคตะวันออก ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตทำสถิติสูงสุดใหม่  ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก 1.ขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ 2.เพิ่มช่องทางการขาย และ 3.ร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่ม

ชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ SM  กล่าวว่า ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เติบโตเกิน 15-20% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ พร้อมเดินหน้า 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.มุ่งเน้นขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ 2.เพิ่มช่องทางการขาย และ 3.ร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่ม หวังผลักดันรายได้ปีนี้เติบโตเกิน 15-20% สร้างสถิติสูงสุดใหม่

SM ราชาสินเชื่อเงินผ่อนภาคตะวันออก 

SM ได้รับการขนานนามว่า “ราชาสินเชื่อเงินผ่อนภาคตะวันออก” โดยปัจจุบัน SM มีสาขารวมทั้งสิ้น 98 สาขา แบ่งเป็น สาขาหลักให้บริการทั้งจำหน่ายสินค้า ประเภทขายสดและขายผ่อนชำระ รวมถึงให้บริการปล่อยสินเชื่อและประกันภัย 16 สาขา, สาขาย่อยให้บริการปล่อยสินเชื่อและประกันภัย 71 สาขา และ สาขา Express ให้บริการทั้งจำหน่ายสินค้าประเภทขายสดและขายผ่อนชำระ รวมถึงให้บริการปล่อยสินเชื่อและประกันภัย 8 สาขา 

โดยเกือบทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถือได้ว่าครอบคลุมพื้นที่ และ มีบริการที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้บริโภค

SM มุ่งขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อมือถือ

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สตาร์ มันนี่ มีการวางกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง รวมถึงมีการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีให้ทันสมัยและเหนือชั้นกว่าผู้เล่นรายอื่นอยู่เสมอ ซึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาล่าสุดได้แก่ ระบบล็อกโทรศัพท์ (Lock Phone) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการด้านการจัดเก็บหนี้ดีขึ้น

จากการเก็บรวบรวมสถิติการชำระหนี้ก่อนและหลังการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ จากเดิมมีอัตราการเก็บเงินสดที่ 88% ในช่วงเริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ล่าสุด ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 อยู่ที่ 96% ส่งผลให้มีการปรับเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือมาที่ระดับ 500 ล้านบาท จากเดิมที่เคยตั้งไว้ 360 ล้านบาท

SM เพิ่มช่องทางขายขยายฐานลูกค้า 

จากการแข่งขันในกลุ่มนอนแบงก์ที่ดุเดือด ทำให้สตาร์ มันนี่ มีแผนเพิ่มช่องทางการขายให้ครอบคลุมในอีกหลากหลายช่องทาง ทั้งในส่วนออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีแผนเปิด Shop มือถือเพิ่มเติมในทำเลพื้นที่ที่มีศักยภาพ และเปิด Shop มือถือเพิ่มเติมในรูปแบบ Shop In Shop ในสาขาย่อยอีกกว่า 60 สาขา เพื่อให้สาขาทั้งหมดที่มีกว่า 90 สาขา สามารถขายมือถือได้ครอบคลุมพื้นที่และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น

ส่วนช่องทางออนไลน์ทาง สตาร์ มันนี่ ก็มีแผนลุยแพลตฟอร์มยอดฮิตที่ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 1.2 พันล้านคน ขณะที่ในไทยมีราว 45 ล้านบัญชี ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงของการศึกษาวางระบบและแผนงานในการรุกตลาดโดยจะเน้นสินค้าไฮมาร์จิ้นอย่างโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ซื้อขายคล่อง และดีมานด์สูง 

SM จับมือพันธมิตรเพิ่ม 

นอกจากเพิ่มช่องทางการขายต่างๆ แล้ว สตาร์ มันนี่ มีแผนจับมือพันธมิตรร้านตู้มือถือและร้านโทรศัพท์มือถือ รวมถึงพันธมิตรกลุ่มขายสินค้าเพื่อประกอบอาชีพ ทั้งธุรกิจตู้แช่, จำหน่ายเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญครบวงจร และโซลาร์ รูฟท็อปเพิ่มเติม 

อีกทั้งยังมีในส่วนของ workplace ที่มีสถานประกอบการและคนทำงานจำนวนมากในภาคตะวันออกเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งพื้นที่เขต EEC มีสถานประกอบการขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก รวมประมาณ 55,000 แห่ง มีกลุ่มลูกจ้างในสถานประกอบการราว 2 ล้านคน ส่งผลให้แต่ละปีมีเม็ดเงินสะพัดมากกว่าแสนล้านบาท จึงถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพมากที่สุดในภูมิภาคเลยก็ว่าได้ 

การดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ที่วางไว้  ส่งผลให้ "สตาร์ มันนี่" ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา และนำมาประยุกต์ใช้กับแผนธุรกิจที่ได้วางไว้ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นในตลาดได้อย่างเหนือชั้น!!!