Talk of The Town

เปิดกลยุทธ์ลงทุนรับบาทแข็งรอบ 1 ปี 8 เดือน หุ้นตัวไหนส้มหล่นทับ! หนี้ลด-นำเข้าถูก กลุ่มส่งออก-ชิ้นส่วนฯ-เกษตร สะเทือนหนัก


30 กันยายน 2567

ความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุ 32.70 บาท/ดอลลาร์แข็งค่าที่สุดในรอบ 1 ปี 8 เดือน ราว -4 บาท จากสิ้นปี 2567 หรือแข็งค่าราว 11% เทียบตั้งต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบัน ผลจาก1.ส่วนต่างอัตราดอกกเบี้ยสหรัฐ-ไทยที่มีแนวโน้มแคบลง 2.Capital Inflow 3.เศรษฐกิจภายในมีสัญญาณการฟื้นตัว หลังการเมืองชัด

เปิดกลยุทธ์ลงทุนรับบาทแข็งรอบ 1ปี 8 เดือน_S2T (.jpg

โดยบล.กรุงศรี ประเมินแนวโน้มมีโอกาสแข็งค่าต่อ แนวรับสำคัญทางเทคนิคค่าเงินบาทที่ 32.55/32.186 บาท/ดอลลาร์ แนวต้าน 33.17/33.34 บาท

ประเมิน Sensitivity เงินบาทแข็งค่าทุกๆ 1 บาท กลุ่มที่มี Upside บวกต่อกำไรมากที่สุดคือ กลุ่มการบิน AAV ทุกๆ 1 บาท  Upside 1 พันล้าบาท (54% ของกำไรปี 2567) รองลงมาคือ กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM เพิ่มราว 13% หุ้น Mid/Small Cap ที่เน้นกลุ่มนำเข้าจากต่างประเทศคือ MOSHI (นำเข้า 55% ของต้นทุน) KCG (50%) TAN (70%) SABINA (56%) โดยรวมทุกบริษัท ทุกๆ 1% ของค่าเงินที่เปลี่ยนมีผลต่อกำไร ตลาดในปี 2567F เพิ่มราว 1-1.5% ฯลฯ

กลุ่มที่กระทบจากเงินบาทแข็งค่าคือ กลุ่มส่งออก ชิ้นส่วน และเกษตร มี Downside ราว -2.9% -1.3% ตามลำดับ

กลยุทธ์การลงทุน ทิศทางเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า จิตวิทยาบวกต่อ Fund Flow และบวกต่อการลงทุน ไตรมาส 4/67 โดยยังคงเป้าดัชนี ณ สิ้นปี 2567 ที่ระดับ 1,540 จุด แนะนำลงทุนหุ้นได้ประโยชน์ค่าเงินบาทแข็ง และได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง กลุ่ม Domestic play กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF ราคาเป้าหมาย 68 บ. ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และเงินบาทแข็งค่า และหุ้นหลักที่ได้ประโยชน์กระแส Data Center 

ขณะที่กลุ่มสายการบิน AAV ราคาเป้าหมาย 2.82 บาท ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากสุดและมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบปรับลง กลุ่มเกษตร TVO ราคาเป้ามหาย 23.2 บาท ระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มราคาถั่วเหลือง เริ่มกลับมาเป็นขาขึ้น แนวโน้มไตรมาส 3/67 คาดกำไรปกติฟื้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนคาดย่อยขายเพิ่มขึ้นเทียบไตรมาสก่อน