Talk of The Town

วิเคราะห์หุ้นโรงไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย ไตรมาส 3/67 กำไรใครปัง!


01 ตุลาคม 2567

ผ่านไปแล้วสำหรับรอบผลประกอบการไตรมาส 3/67 หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่นักลงทุนเฝ้าจับตากันอย่างใกล้ชิดว่าผลประกอบการจะมีแนวโน้มเติบโตได้ดีหรือไม่ ดังนั้นในครั้งนี้ทีมข่าว Share2Trade จึงได้รวบรวมคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/67 ของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ายอดนิยมมาฝากนักลงทุน

วิเคราะห์หุ้นโรงไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย_S2T (เว็.jpg

เริ่มกันที่ GULF นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 3/67 ที่ระดับ 4,300-4,600 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้า IPP

แต่คาดเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากโครงการใหม่ รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH ที่เติบโตต่อเนื่องตามการแข่งขันในอุตสาหกรรมมือถือและ Broadband ที่ลลง คงคาแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 55.50 บาท/หุ้น

ต่อด้วย GPSC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่ากำไรของ GPSC ในไตรมาส 3/67 จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL จะทรงตัว เนื่องจากมีการหยุดการผลิต 10 วันในเดือน ส.ค.จากปริมาณน้ำที่มากเกิน (เมื่อเทียบกับการหยุดการผลิต 2 วันในไตรมาส 3/66) อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรของโรงไฟฟ้า SPP จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ราคาก๊าซที่ลดลง

โดยกำไรหลักในไตรมาส 3/67 น่าจะเป็นจุดพีคของปี 2567 หนุนโดยการจ่ายไฟฟ้าของ XPCL และอุปสงค์ที่มากขึ้นจากโรงไฟฟ้า SPP (เนื่องจากมีวันหยุดน้อยลง) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 51 บาท

ส่วน RATCH นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 3/67 มีโอกาสทำ New High ที่ระดับ 2,300-2,500 ล้านบาท หลังได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าหงสาที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง เพราะไม่มีการปิดซ่อมบำรุงและการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า Paiton แบบเต็มไตรมาส (คาดราว 600-700 ล้านบาท) คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท/หุ้น

ด้าน EGCO นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่ากำไรปกติไตรมาส 3/2567 จะอ่อนแอลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่สูงในไตรมาส 3/2566 ที่ผลการดำเนินงานเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าพาจู อีเอส ดีกว่าค่าเฉลี่ย แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส่อน โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังนำและโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 125 บาท

ขณะที่ BGRIM นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 3/67 ที่ระดับ 450-500 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ราว 320 บาท/ล้านบีทียู หลังไม่มีการรับเงินค่าก๊าซธรรมชาติที่ชำระไว้เกินคืนจากกลุ่ม PTT เหมือนในช่วงไตรมาส 2/67

แต่เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดกำไรปกติลดลงจากฐานที่สูงในปีก่อนหลังถูกกดดันจากค่าไฟฟ้าปรับตัวลง เร็วกว่าต้นทุนก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสม 30.50 บาท

ส่วน BPP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 3/67 ที่ราว 1,500-2,000 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อน หลังได้แรงหนุน จาก 1.รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า Temple I และ II ในสหรัฐฯ ที่มี แนวโน้มฟื้นตัวตามปัจจัยฤดูกาล 2.ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า Nakoso ที่คาดเร่งตัวขึ้น หลังไม่มีการปิดซ่อมบำรุงในช่วงไตรมาส 3/67

อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติไตรมาส 3/67 จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่สูงในปีก่อนเพราะ 1. การไม่เกิดคลื่นความร้อนที่รุนแรงเหมือนปี ก่อนในสหรัฐฯ ส่งผลให้รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า Temple I และ II มี แนวโน้มลดลง และ 2. คาดต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 750-800 ล้าน บาท/ไตรมาส (เทียบกับ 731 ล้านบาทในไตรมาส 3/66)  แนะนำ “TRADING” ราคาเป้าหมาย  13.20 บาท/หุ้น

วิเคราะห์หุ้นโรงไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย.jpg