รายงานพิเศษ : ต้นทุน “น้ำมัน-เม็ดพลาสติก” ขาลง ช่วยผลักดันผลงาน SFLEX ปีนี้สดใส
สถานการณ์ทิศทางราคาน้ำมันและเม็ดพลาสติกที่ปรับลดลงอย่างชัดเจน และการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี หนุนผลงาน บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ปีนี้เติบโตสดใส โบรกเกอร์ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 67-69
โดยบล.ฟินันเซีย ไซรัส วิเคราะห์หุ้น บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) โดยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติ ใน 67-69จากแนวโน้มที่สดใสรออยู่ข้างหน้า เนื่องจากผลประกอบการของ SFLEX ในครึ่งแรกปี 67 ที่ดีเกินคาด (กำไรปกติ 128 ล้านบาท +40.6% จากปีก่อน) และคิดเป็น 57% ของประมาณการทั้งปีเดิม ในขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังยังสดใสทั้งในไทยและเวียดนาม จึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2024-26 ขึ้น +9%/+5%/-1% ตามลำดับ
โดยหลักมาจาก 1) ปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิมที่คาดเฉลี่ยประมาณ 21.0% เป็น 24% จากทิศทางของราคาน้ำมันและเม็ดพลาสติกที่เป็นขาลงชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และการทยอยปรับราคาขายให้เหมาะกับต้นทุน
2) ปรับเพิ่มดอกเบี้ยจ่ายจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่อยู่ในระดับสูงยาวนาน
3) ภาษีจ่ายที่ควรต่ำกว่าประมาณการเดิม เนื่องจากบริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI และใช้ได้อีกเกือบ 3 ปี
4) ส่วนแบ่งกำไรจาก Starprint Vietnam ให้ conservative กว่าเดิม
ดังนั้น ปี 67 เป็นอีกปีที่สดใสสำหรับธุรกิจปลายน้ำอย่าง SFLEX เราคาดกำไรปกติ +33.9% จากปีก่อน เป็น 243 ล้านบาท เป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เติบโตต่อเนื่องจากปี 2023 ที่โต 231.2% จากปีก่อน และคาดกำไรปกติขยายตัวต่อเนื่อง 7.6% จากปีก่อน ในปี 68 และโตเล็กน้อยในปี 69 จาก BOI ที่หมดลงเว้นเสียแต่ว่าบริษัทจะมีโครงการอื่นเพิ่มเติมที่ได้รับสิทธิประโยชน์ต่อเนื่อง คิดเป็นกำไรเติบโตเฉลี่ย 3.4% CAGR ในช่วงปี 67-69
แม้ว่าอัตราการเติบโตจะไม่สูงนัก แต่เป็นกำไรที่ยกฐานขึ้นในอดีต และไม่ผันผวนเท่าในอดีต หลังจากบริษัทขยายกำลังการผลิต ปรับปรุงเครื่องจักร และให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนวัตถุดิบเป็นอย่างดี นอกจากนี้ Starprint Vietnam ที่บริษัทร่วมทุนตั้งแต่ต้นปี 67 ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตได้อีกแรงเนื่องจากเศรษฐกิจเวียดนามเริ่มกลับมาโตดีหลังโควิด ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว มีกำลังจับจ่ายใช้สอย แรงงานมีคุณภาพและมีฝีมือดี
เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 5.10 บาท อิง 2025E P/E 16x (-0.7SD of its four year historical average after the IPO) ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ 68 P/E ต่ำเพียง 10.9x และ 2025E EV/EBITDA เพียง 10.1x ต่ำสุดในรอบ 4 ปี สวนทางกำไรที่คาด new high จึงยังคำแนะนำ “ซื้อ”
ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของผู้บริหาร โดยดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SFLEX มั่นใจ แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง ยังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการสินค้า Flexible packaging ในช่วงเทศกาลต่างๆ ในครึ่งปีหลัง
พร้อมกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจกล่องระดับพรีเมียมจากโครงการร่วมทุน Starprint Vietnam อีกทั้งคาดว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐจะเข้ามากระตุ้นยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่เป็นลูกค้าหลักของ SFLEX และคาดว่าบริษัทร่วมทุน "บริษัท สตาร์ยูเนี่ยน แพคเกจจิ้ง จำกัด" จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ประมาณปลายไตรมาส 4/2567
ทั้งนี้ บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้แบบ Organic growth จากธุรกิจหลักอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน และสร้างสถิติสูงสุดใหม่ จากแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีการเติบโตต่อเนื่อง และกลุ่มที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความยั่งยืน หรือแพคเกจจิ้งที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Recyclable) ให้มากยิ่งขึ้นตามเทรนด์ในปัจจุบัน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ยกระดับ SFLEX และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครบวงจร และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว