Wealth Sharing

สรุปดีล SCB ขาย Robinhood


01 ตุลาคม 2567

ตามที่ใครหลายคนได้ติดตามข่าวสารของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่อย่าง บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ที่ได้ประกาศจะยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood ในวันที่ 31 ก.ค.67 แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือนหรือในวันที่ 29 ก.ค. 67 จากการประชุมคณะกรรมการบริษัทก็ได้มีการเลื่อนการยุติการให้บริการส่งอาหารของแอปพลิเคชันดังกล่าวออกไป

สรุปดีล SCB ขาย “Robinhood”_WS (เว็บ).jpg

ด้วยเหตุผลที่ว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดจากผู้ที่สนใจ ซึ่งมีจำนวนหลายรายได้เข้ามาติดตต่อ ซึ่งล่าสุดในวัน 30 ก.ย.67 บริษัทก็ได้ปีดดีลการขายแอปพลิเคชัน Robinhood เป็นที่เรียบร้อย โดยลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ให้แก่ 4 กลุ่มผู้ลงทุน  เป็นเงินกว่า 2 พันล้านบาท

สำหรับกลุ่มผู้ลงทุนรายใหม่ นำโดยกลุ่มยิบอินซอย ที่เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 50% (ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มยิบอินซอย สัดส่วน 30% และบริษัท มีศิริ จำกัด สัดส่วน 20%) รองลงมาเป็นบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BTC ในสัดส่วน 30% ,บริษัท เอสซีที เรนทอล คาร์ จำกัด ในสัดส่วน 10% และบริษัท ล็อกซบิท จำกัด (มหาชน) (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY ในสัดส่วน 10%

ทั้งนี้ ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองเป็นบวกเล็กน้อย โดยประเมินว่าจะมีการบันทึกการด้อยค่าของเครื่องมือทางการเงิน(impairment loss) ที่ลดลงในไตรมาส 3/67 จากเดิมที่ 1,000 ล้านบาท เหลือที่ 600 ล้านบาท เพราะได้เงินจากการปิดดีลขาย Robinhood ทันทีที่ 400 ล้านบาท (คิดเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 1%) 

ขณะที่ส่วนต่างอีก 1,600 ล้านบาท (มูลค่ารวมสูงสุด 2,000 ล้านบาท) ถือว่าเป็นสัญญา Management Agreement จะรับรู้เป็นกำไรให้กับ SCB ได้ก็ต่อเมื่อ Robinhood มีกำไร ซึ่งยังไม่สามารถทราบได้ว่ากำไร 1,600 ล้านบาท บริษัทที่ซื้อไปจะต้องจ่ายให้ SCB ภายในกี่ปี และไม่ทราบว่าสัดส่วนการแบ่งกำไรให้กับ SCB เป็นเท่าไร 

แต่อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ไตรมาส 4/67 เป็นต้นไป ทาง SCB ไม่ต้องแบกผลขาดทุนจาก Robinhood อีกต่อไป (ปี 2566 มีผลขาดทุนสุทธิราว 2.2 พันล้านบาท) ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกในระยะยาว

ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 3/67 คาดจะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน จากสำรองฯที่ลดลง แต่จะทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า  เพราะมีขาย  Robinhood ได้เงินทันทีที่ 400 ล้านบาท ขณะที่ NPL ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นจากสินเชื่อรายย่อย

สรุปดีล-SCB-ขาย-“Robinhood”.jpg