17 หุ้นเป้าหมาย กองวายุภักษ์ออกปฏิบัติการ ลุ้น SET ปี 68 ทะลุ 1,610 จุด

เม็ดเงินวายุภักษ์เริ่มทำงานวันแรก (1 ต.ค.) สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 3.4 พันลบ. (ส่วนแบ่งตลาดของกองทุนเพิ่มขึ้นเป็น 16.7% จากปกติ 8-10% คิดเป็นเม็ดเงินเพิ่มขึ้น ~3 พันลบ.) และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ 1.0 แสนลบ.

เม็ดเงินเกือบทั้งหมดที่ซื้อตราสารหนี้ เป็นการลงทุนในตัวสั้น (อายุ <1 ปี) สะท้อนว่าเป็นการพักเงินระยะสั้น และหาจังหวะเหมาะสมเข้าลงทุนในตลาดหุ้น เพราะหากต้องการทำกำไรในยุคดอกเบี้ยขาลง ควรลงทุนในตราสารหนี้ที่อายุคงเหลือยาวๆ เพื่อรับส่วนต่างจากราคาที่สูงขึ้น

การขายของต่างชาติวานนี้ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ (แต่ยัง long index futures) และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าสุดในภูมิภาค มองว่าเป็นเพียงการทำกำไรระยะสั้น แต่ยังต้องติดตามตัวเลขศก.อื่นประกอบ เช่นศุกร์นี้ ตัวเลขการจ้างงาน และสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางที่ตึงเครียดขึ้น

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า หุ้นที่เรามองว่าเป็นเป้าหมายกองทุนวายุภักษ์ 1 ได้แก่ ADVANC AP BBL BCH BDMS CPALL CPN HMPRO ICHI INTUCH KBANK MINT OSP SIRI TISCO WHA PR9

ขณะที่บล.กสิกรไทย มองว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/68  ภาพใหญ่เป็นบวกหนุนขาขึ้น เราคาด SET Index จะยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การการเมืองและเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะแรงหนุนจากการลดดอกเบี้ยของ Fed รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการอัดฉีดสภาพคล่องผ่าน TESG และกองทุนวายุภักษ์

“เราปรับเป้า SET เป็นสำหรับสิ้นปี 2568 ประเมินที่ 1,610 จุด โดยใช้ประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ของปี 2568 ที่ 100.7 บาท อิงกับค่าเฉลี่ย PER ระยะยาวที่ 16 เท่า เลือกหุ้นเด่น PR9, MOSHI, AAV, GPSC, KTB"

โดยได้รับปัจจัยหนุน

-จากสถานการณ์การเมืองของไทยปรับตัวดีขึ้นหลังจากการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว สามารถสานต่อนโยบายจากรัฐบาลชุดก่อน ขณะที่เศรษฐกิจไทยก็ผ่านจุดต่ำสุดในครึ่งแรกของปี 2567 คาดฟื้นตัวชัดในครึ่งหลังของปี 2567

-Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50bps ในการประชุมเดือนก.ย. และคาดว่าจะปรับลดลงอีก 50bps เหลือ 4.50% ภายในสิ้นปี 2567

-มาตรการรัฐหนุน มีนโยบายสนับสนุนหลายประการที่เตรียมดำเนินการในช่วงปลายปี 2567 ทั้งการแจกเงินและการฉีดสภาพคล่องผ่านTESG และกองทุนวายุภักษ์