กลุ่มยางพาราโดนแรงขาย เหตุยุโรปส่อแววเลื่อนใช้กฎ EUDR นักวิเคราะห์ ชี้ STA เจ็บหนักสุด
รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มยางในการซื้อขายช่วงเช้านี้ ได้ปรับตัวลดลงทั้งกลุ่ม หลังคณะกรรมาธิการยุโรป ขยายระยะเวลาการเริ่มบังคับใช้กฎหมายต้านการนำเข้าสินค้าที่มีส่วนในการตัดไม้ทำลายป่า (EUDR) ออกไป 12 เดือน เพื่อให้ทุกฝ่ายที่กังวลมีระยะเวลาปรับตัว โดยหากรัฐสภาและคณะมนตรียุโรปเห็นชอบ จะทำให้กฎ EUDR เริ่มบังคับใช้วันที่ 30 ธ.ค. 2568 สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ และเริ่มใช้วันที่ 30 มิ.ย. 2569 สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองเป็นลบต่อกลุ่มยาง โดยหากมีการขยายระยะเวลาอาจกระทบต่อราคายาง รวมถึงทำให้ประเทศคู่แข่งทยอยปรับตัวได้ทันมากขึ้น ทั้งนี้มองว่าหุ้นที่จะได้รับผลกระทบมากสุดจะเป็น STA ขณะที่มองว่า NER ยังกระทบจำกัด เนื่องจากการส่งออกยาง EUDR ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองเป็นเซนติเมนท์เชิงลบ ต่อหุ้นกลุ่มยางพาราจากประเด็นดังกล่าว ทำให้ปัจจัยกดดันเรื่องความชัดเจนของกฎ EUDR กลับมากดดันราคาหุ้นในกลุ่มอีกครั้ง และอาจทำให้มีแรงขายจากการเก็งกำไรระยะสั้น
สำหรับในเชิงพื้นฐานยังมองเป็นกลางต่อกลุ่มยางพารา เนื่องจากแม้กฎดังกล่าวจะเลื่อนออกไป 12 เดือน แต่ประเมินว่าความต้องการยาง EUDR ของลูกค้าในระยะสั้น แม้อาจไม่เพิ่มแต่อาจไม่ได้ลดลงเช่นกัน เพราะผู้ผลิตล้อยาง รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์มีการเตรียมความพร้อมไปพอสมควรแล้ว และอุตสาหกรรมยางพาราเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ไม่ได้มีถูกร้องให้เลื่อน เพราะมีความพร้อมมากว่าสินค้าเกษตรชนิดอื่นๆ
ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามคือราคายาง SICOM ที่อาจชะลอการปรับขึ้นจากประเด็นดังกล่าว เนื่องจากช่วงที่ผ่านมีที่ปรับขึ้นบางส่วนมาจากการเร่งสต็อกยาง Non-EUDR เข้าไปในยุโรป (เพื่อเตรียมใช้ปีหน้าโดยไม่ผิดกฎ EUDR)
ทั้งนี้ ประเมินราคาหุ้นตอบรับเชิงลบระยะสั้น เชิงกลยุทธ์ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำ ชะลอการลงทุน และรอกลับเข้าลงทุนอีกครั้งหลังกฎ EUDR มีความชัดเจนในปลายเดือน ต.ค. แต่ระยะยาว เราประเมินว่าราคายางพารา และผลประกอบการของกลุ่มยังอยู่ในรอบขาขึ้น คาดจะเติบโตเด่นทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันในครึ่งปีหลังปี 67 และหุ้นในกลุ่มยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ค่อนข้างสูง 4-6%