จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ :TPLAS ผลงานปีนี้โตแตะ 10% หลังธุรกิจร้านอาหารไทยโตก้าวกระโดด


03 ตุลาคม 2567

ธุรกิจร้านอาหารไทยโตก้าวกระโดดในช่วง 3 ปี แพลตฟอร์มออนไลน์หนุนยอดขายบูม กระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) (TPLAS) ปีนี้โต 10% ตามเป้าหมาย

รายงานพิเศษ TPLAS ผลงานปีนี้โตแตะ10_.jpg

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจร้านอาหารมีแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังผ่านช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มีการจัดตั้งธุรกิจและทุนจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2566 มีการจัดตั้งธุรกิจ 4,017 ราย เพิ่มขึ้น 996 ราย จากปี 2565 คิดเป็น 32.97% ทุนจดทะเบียน 8,078.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,490.29 ล้านบาท จากปี 2565 คิดเป็น 22.62%

ขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ส.ค.) มีธุรกิจร้านอาหารที่จัดตั้งใหม่ 2,847 ราย มูลค่าทุน 5,826.03 ล้านบาท นิติบุคคลที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย มีจำนวนทั้งสิ้น 44,508 ราย มูลค่าทุน 220,916.70 ล้านบาท เป็นธุรกิจขนาดเล็ก S จำนวน 43,874 ราย คิดเป็น 98.58% ธุรกิจขนาดกลาง M จำนวน 521 ราย คิดเป็น 1.17% และธุรกิจขนาดใหญ่ L จำนวน 113 ราย คิดเป็น 0.25%

ทำให้ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจร้านอาหารสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เฉลี่ยปีละ 63,000 ล้านบาท โดยในปี 2564 มีรายได้ 179,645 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้ 244,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.05% และ ปี 2566 มีรายได้ 306,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.45%

ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารสามารถทำกำไรดีขึ้น (หรือขาดทุนลดลง) โดยเฉพาะในปี 2566 ร้านอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ มีกำไรสูงถึง 10,369.91 ล้านบาท คิดเป็น 106.90% ของกำไรปี 2566 

สำหรับการลงทุนของต่างชาติในธุรกิจร้านอาหารพบว่า มูลค่าลงทุนของต่างชาติอยู่ที่ 29,071.35 ล้านบาท ประเทศที่เข้ามาลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา มูลค่า 6,075.23 ล้านบาท คิดเป็น 20.90%, ญี่ปุ่น 3,162.46 ล้านบาท คิดเป็น 10.88%, จีน 2,326.24 ล้านบาท คิดเป็น 8.00%, อินเดีย 2,168.02 ล้านบาท คิดเป็น 7.46% และฝรั่งเศส 1,607.03 ล้านบาท คิดเป็น 5.53%

ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารเติบโต มาจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่มาช่วยบริหารจัดการร้าน การสั่งอาหารหรือการโฆษณาร้านผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารเป็นที่รู้จัก และเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย โดยปัจจุบันไม่จำเป็นต้องตั้งร้านในทำเลที่คนพลุกพลานซึ่งมีการลงทุนที่สูงอีกต่อไป

นอกจากนี้ การพัฒนาสินค้าให้เข้ากับความต้องการของคนยุคใหม่ การเลือกใช้วัตถุดิบในการทำอาหารที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ วัตถุดิบที่เป็นออแกนิค โปรตีนที่ทำจากพืช (Plant-based) วัตถุดิบจากต่างประเทศที่นำเข้าได้ง่ายขึ้น และการสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ ๆ หรือการให้บริการที่สร้างความประทับใจแก่ลูกค้า 

ทั้งนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ส่งเสริมธุรกิจร้านอาหารให้สามารถแข่งขันได้มาอย่างต่อเนื่อง โดยการยกระดับมาตรฐานร้านอาหารไทยผ่านตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับร้านอาหารไทย ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นควบคู่กับการเผยแพร่วัฒนธรรมผ่านอาหารไทย รวมถึงลูกค้าไทยและต่างชาติสามารถเดินเข้าร้าน Thai SELECT ได้ด้วยความมั่นใจ ซึ่งปัจจุบันมีร้านอาหาร Thai SELECT ทั่วประเทศ 496 ร้าน

นอกจากนี้ ยังพัฒนาให้ร้านอาหารเกิดการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ที่จะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจแบบก้าวกระโดด เริ่มตั้งแต่การสร้างธุรกิจให้สามารถต่อยอดเป็นแฟรนไชส์ มีมาตรฐานสากล และมีโอกาสนำเสนอธุรกิจได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ปัจจุบันมีแฟรนไชส์ร้านอาหารที่ผ่านการพัฒนาจากกรมฯจำนวน 248 ราย และก้าวสู่ตลาดต่างประเทศแล้ว 27 ราย ใน 31 ประเทศทั่วโลก

ธุรกิจอาหารที่เติบโตได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร ทั้งในรูปแบบถุงพลาสติก และบรรจุภัณฑ์กระดาษ  โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ของ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994)  (TPLAS)  ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังนี้ 1. ถุงบรรจุอาหารประเภท Polypropylene ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “หมากรุก” 2. ถุงบรรจุอาหารและถุงหูหิ้วประเภท High Density Polyethylene ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “หมากรุก”  3. ฟิล์มถนอมอาหาร Polyvinyl Chloride ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “Vow Wrap” 4. บรรจุภัณฑ์กระดาษ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “BEAT BOX” 

โดย นายอภิรัตน์ ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ TPLAS ระบุแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจพลาสติกและกระดาษ  และยังมีแผนเพิ่มสินค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหาร (Food Packaging) มากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่เปิดร้านออนไลน์-เดลิเวอรี่ สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีการสั่งซื้ออาหารผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

ทั้งนี้ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นไปที่การเพิ่มยอดขายสินค้าภายในประเทศ ผ่านการทำแคมเปญการตลาด และขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น เพิ่มกลุ่มสินค้าสำหรับกลุ่มลูกค้าร้านอาหารมากขึ้น  ขณะเดียวกันยังได้มีการขยายทีมมาร์เก็ตติ้ง และทีมขาย ควบคู่ไปกับการศึกษา และเตรียมความพร้อมในการขยายตลาดต่างประเทศ