‘ไวต้าฟู้ดเอเชีย 2024’ แรงขับเคลื่อนลูกใหญ่ ดันไทยเบอร์หนึ่งอุตสาหกรรมสารสกัดและเสริมอาหารของเอเชีย

เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนลูกใหญ่ผลักดันศักยภาพอุตสาหกรรมเสริมอาหารและสารสกัดประเทศไทย ก้าวขึ้นสู่แท่นเป็นฮับด้านนวัตกรรมเสริมอาหารและสารสกัดเบอร์หนึ่งของภูมิภาคเอเชีย และระดับเวทีโลก ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปิดท้ายปีนี้ “ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2024” (Vitafoods Asia 2024) งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมส่วนผสมสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย จัดงานโดย “อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์” ในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา

ภายใต้กระแสผู้คนทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด – 19 และการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทย ตลาดผลิตภัณฑ์สารสกัดและเสริมอาหารมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด และดูเหมือนว่าจะเป็นเทรนด์ธุรกิจที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดเอง ก็แตกไลน์ขยายให้มีหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ครอบคลุมทั้งการดูแลสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง รวมถึงวิตามินเสริมอาหารเรื่องความงาม เป็นต้น 

“ประเทศไทย นับว่ามีความได้เปรียบ จากความเข้มแข็งทางด้านวัตถุดิบที่ใช้ผลิตเป็นสารสกัด ไทยมีผลิตผลทางการเกษตรที่หลากหลาย ทำให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการไทยยังมีพื้นที่แสดงศักยภาพ มีโอกาสสูงมากในตลาดโลก หากสามารถทำการศึกษาและการวิจัยที่นำไปสู่การต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเสริมอาหารและสุขภาพของประเทศไทยสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับ 1.9 แสนล้านบาทในปี 2565 และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 แสนล้านบาทในปี 2569 ขณะที่การเติบโตของตลาดเสริมอาหารในประเทศไทย และตลาดในเอเชียที่ขยายตัว 10.26% มีมูลค่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2029” “รุ้งเพชร ชิตานุวัตร์” ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงานฯ กล่าว

“Vitafoods Asia 2024” จึงเป็นประตูสำคัญที่นำให้รู้จัก และสัมผัสความตื่นตาไปกับโลกธุรกิจและอุตสาหกรรม “สารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” (Nutraceuticals) ที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น โดยปีนี้มีผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจากทั่วโลก ตอบรับมาร่วมจัดแสดงโชว์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เทคโนโลยีล้ำสมัย และความพร้อมเรื่องการผลิต รวมไปถึงผลวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้าทุกประเภท ขนทัพบริการมาครบครันทั้งการผลิตแบบ OEM ODM และ OBM มากกว่า 544 ราย จาก 38 ประเทศ ขณะที่มีผู้เข้าชมงานในปีนี้มากถึง 12,976 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 34%

เต็มพื้นที่ฮอลล์ 1 – 3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตระการตาไปด้วยความสวยงามและหลากหลายของบูธจัดแสดงสินค้าที่บริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ที่ต่างพากันเล่นใหญ่เพื่อโชว์ศักยภาพ และยังขนทัพนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ และผลิตภัณฑ์สินค้าเสริมอาหารที่หลากหลาย มาสร้างความตื่นตาตื่นใจ ทำให้ตลอด 3 วันของการจัดงานปีนี้ หนาแน่นไปด้วยผู้ชมงาน ผู้มีอิทธิพลในแวดวง อินฟลูเอนเซอร์ เจ้าของธุรกิจ รวมทั้งผู้คนที่กำลังมองหาโอกาสลงทุน หรือ สร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ต่างเรียงรายกันมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ฯลฯ 

ยกตัวอย่าง บูธนี้ ‘คาเนกะ ยูบิควินอล’ (Kaneka Ubiquinol™) โดยบริษัท คาเนกะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่าย ‘ยูบิควินอล’ (Ubiquinol) ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่จับเทรนด์ “สูงวัยอย่างสง่างาม” นำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ยูบิควินอล มาให้คนไทยยลโฉมแบบจัดหนักจัดเต็ม

โดย “คาซึกิ ทาคิตะ” หัวหน้าฝ่ายขายและการตลาด Kaneka Ubiquinol™ เอเชียแปซิฟิก ชวนคนไทยให้สูงวัยอย่างมีสุขภาพดีไปด้วยกัน และอธิบายเพิ่มเติมว่า Kaneka Ubiquinol™ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยกย่องในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและความมีอายุยืนยาว เพราะมีบทบาทสำคัญในการสร้างพลังงานให้กับไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตพลังงานในเซลล์ทั่วร่างกาย เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตยูบิควินอลจะลดน้อยลง ทำให้การเสริมยูบิควินอลเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดีในกลุ่มผู้สูงวัย ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะร่วมมือกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (KOLs) ขยายตลาดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยูบิควินอลในประเทศไทย

นอกจากนี้ “Vitafoods Asia 2024” ยังขานรับเมกะเทรนด์ ‘ความยั่งยืน’ (Sustainability) ผ่านการจัดประกวด ‘The Sustainability Booth Design Awards ซึ่งมีบริษัทร่วมสร้างแรงบันดาลใจพัฒนาธุรกิจดูแลสุขภาพที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากมาย ได้แก่ ALGALIF, BIORGINAL ASIA, BOTANIC HEALTHCARE, FISMER LECITHIN, GIWAN, GRAINON, MORINAGA NUTRITIONAL FOODS, NAHRIN AG, NEXUS WISE, PB LEINER, PIO PHARM และ SOLABIA BIO ACTOR

ทางด้านความเข้มข้นของโซนสัมมนาและกิจกรรมไฮไลต์ “Vitafoods Asia 2024” ปีนี้ได้ยกขบวนมาให้เลือกอัปเดตหลากหลายโซน อาทิ 

• Main Stageสัมมนาเจาะลึกงานวิจัยและแนวโน้มตลาดเสริมอาหารในเอเชีย มีหัวข้อเด็ด ๆ ให้ติดตามทันเทรนด์ใหม่ อาทิ Food Labeling in SEA to promote the Elderly
• NutraFocus โซนที่เรียกความสนใจได้อย่างคับคั่งจากผู้ที่สนใจเพิ่มเติมข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในอุตสาหกรรมเสริมอาหาร ตลอดทั้ง 3 วัน ยังมีหัวข้อสัมมนาที่สนใจมากมาย เช่น การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากสมุนไพร โดยผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
• New Ingredients & New Products Zoneเป็นโซนที่หลายคนรอคอยและให้ความสนใจ เพราะรวมสารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ล่าสุด จากทั่วทุกมุมโลก 
• อีกหนึ่งโซนฮิต Tasting Barโซนที่เปิดให้ผู้เข้างานได้ลองชิมผลิตภัณฑ์ก่อนติดต่อธุรกิจกับผู้ขาย มีผลิตภัณฑ์ให้ทดลอง เช่น ผลิตภัณฑ์โปรตีนสำหรับผู้สูงวัย เครื่องดื่มสมุนไพรช่วยเพิ่มพลังงาน ทุกคนที่ได้ชิมต่างชมว่า รสชาติอร่อย ดื่มง่าย ฯลฯ
• Life Elementsการให้คำปรึกษาด้านโภชนาการที่สอดคล้องกับธาตุเฉพาะตัว เป็นการบริโภคอาหารตามแบบฉบับของการแพทย์แผนไทยที่มีการระบุไว้ในตำราอายุรเวทโบราณ โดยเป็นศาสตร์ความรู้ที่มีการยึดปฏิบัติมาตั้งแต่อดีต โดยมีความเชื่อว่าร่างกายของคนนั้นจะประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งหากธาตุเหล่านี้สมดุลกัน ก็จะส่งผลให้ร่างกายนั้นแข็งแรงนั่นเอง
• Innovative Health Hubการจัดแสดงเทคโนโลยีและโซลูชันด้านโภชนาการที่เข้ามาปฎิวัติวงการสุขภาพ
• Sustainability Squareเวิร์กช็อปงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยโดยเน้นหลักปฏิบัติที่ยั่งยืน ในปีนี้มีหลายชุมชนมาร่วมทำเวิร์คช็อปในงาน เช่น เวิร์คช้อประบายพัด จากชุมชมบางกระเจ้า เป็นอีกโซนน่ารัก ๆ ที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมงาน
• A to C: Academic to Commercialการนำเสนองานวิจัยทางวิชาการเพื่อโอกาสในการต่อยอดไปสู่เชิงพาณิชย์ นำเสนอผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มีทั้งแบบที่เป็นผลงานวิจัยและผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดแล้ว สำหรับไฮไลต์ของโซนนี้ คือ น้ำมันจิ้งหรีด จากมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ใครเห็นก็ต้องแวะชม
• Nutritional Consultancyบริการให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนโภชนาการให้เหมาะกับสุขภาวะ และเป้าหมายด้านสุขภาพแต่ละบุคคล ผู้เข้าร่วมงานขึ้นยืนบนเครื่องวัดมวลไขมัน กล้ามเนื้อ และกระดูก ที่ให้ผลแม่นยำกว่าเครื่องชั่งน้ำหนัก เจ้าหน้าที่จะช่วยอ่านผลและแนะนำการดูแลสุขภาพ ทั้งเรื่องการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมนั่นเอง

ปิดท้ายกันที่ Vitafoods Asia Nutraceutical Awards Showcase โซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากผู้เข้ารอบการประกวดนวัตกรรมที่รังสรรค์จากวัตถุดิบในท้องถิ่น ภายใต้แนวคิด “Local Ingredients to Global Nutraceuticals” ซึ่งผู้ที่เข้ารอบจะได้รับเกียรติบัตรรับรองคุณภาพเพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์และสารสกัดให้ไปสู่เชิงพาณิชย์ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลในปีนี้แบ่งเป็น 2 ประเภทการประกวดได้แก่ ประเภท SME และนักศึกษา

สำหรับประเภท SME รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โปรตีนไฮโดรไลเซทจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ จาก RICE-PEP, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ผลิตภัณฑ์กัมมี่ลำไส้ดีอารมณ์ดี จาก ZEREE A, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ไฟเบอร์จากกากมันสำปะหลัง จาก OLIGO FIBER PLUS และรางวัลชมเชย ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกส์สายพันธุ์ยาว จาก ISOMALTELITE 

ประเภทนักศึกษา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ น้ำปลาร้าจากเห็ดและสาหร่ายคอมบุ จาก MUSHRA, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ข้าวหมากกับใบหม่อน จาก MAK-KA-MON, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ขิงไซเดอร์ผสมสารสกัดมะระขี้นก จาก MODICA และรางวัลชมเชย ได้แก่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระเจี๊ยบแดงเสริมโพรไบโอติกส์ จาก NUTRARY ROSELLE JELLY และเครื่องดื่มเจลลี่ จาก PRIVARY

สำหรับใครที่พลาดงานในปีนี้ เตรียมกลับมาพบกันใหม่ในปีหน้า “ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2025” (Vitafoods Asia 2025) ระหว่างวันที่ 17 – 19 กันยายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10:00 – 18:00 น. ชั้น LG ฮอลล์ 5 – 8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ติดตามรายละเอียด และลงทะเบียนที่ www.vitafoodsasia.com