กระดานข่าว

ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ต้อนรับ บมจ. ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย (TATG) เริ่มซื้อขาย 8 ต.ค. นี้


07 ตุลาคม 2567

บมจ. ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย ธุรกิจออกแบบ ผลิตเครื่องมือ และชิ้นส่วนแบบปั๊มขึ้นรูปโลหะสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 8 ต.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 500 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TATG

คุณประพันธ์ เจริญประวัติ.jpg

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TATG” ในวันที่ 8 ตุลาคม 2567

TATG และบริษัทย่อยประกอบธุรกิจหลัก 2 ประเภท ได้แก่ (1) ธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ (Tooling) อาทิ แม่พิมพ์ปั๊มขึ้นรูปโลหะ (Stamping Dies) อุปกรณ์จับยึดเพื่อการตรวจสอบ (Checking Fixtures) อุปกรณ์จับยึดเพื่อการประกอบ (Assembly Jigs) และ (2) ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบปั๊มขึ้นรูปโลหะ (Automotive Press Parts) โดยได้นำเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย ตั้งแต่ขนาด 200 – 2,000 ตัน มาใช้ในการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลายรูปแบบ ทั้งการผลิตในปริมาณมาก (Mass Production) และการผลิตที่เน้นความพิถีพิถันสูง รวมถึงการนำระบบชุบเคลือบสีด้วยไฟฟ้า EDP (Electro Deposition Paint) มาใช้เพื่อให้ชิ้นส่วนมีคุณภาพและทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยลงทุนในการวิจัยและพัฒนาแม่พิมพ์โลหะที่สามารถใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตอีกด้วย

TATG มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 100 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริษัทและบริษัทย่อย ระหว่างวันที่ 30 กันยายน2 ตุลาคม 2567 ในราคาหุ้นละ 1.25 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 125 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 500 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 5.2 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.24 บาท โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 

ดร. พยุง ศักดาสาวิตร  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ. ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการผลิตแม่พิมพ์โลหะ อุปกรณ์จับยึด และการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ คุณภาพสูงในภูมิภาคเอเชีย  ด้วยจุดแข็งที่มีทีมผู้บริหารและทีมงานมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจรถยนต์ยาวนานกว่า 30 ปี บริษัทมีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี ฐานการผลิตที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล มีการบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ทำให้ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากลูกค้า ที่เป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำและผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การเติบโตจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทจึงได้ยกระดับสายการผลิตให้เป็นระบบอัตโนมัติเพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้น จะมีการจัดสรรไปใช้ลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสากล อีกทั้งเงินส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินช่วยให้ต้นทุนการเงินต่ำลง และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ

TATG มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มครอบครัวศักดาสาวิตร ถือหุ้นร้อยละ 33.5 กลุ่มครอบครัวหฤทัย ถือหุ้นร้อยละ 25.2 และกลุ่มครอบครัวเหล่าสินชัย ถือหุ้นร้อยละ 9.3 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย 

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียด จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.thaiautotools.co.th  และ www.set.or.th