ในช่วงนี้ก็ถือว่าผ่านพ้นไตรมาสที่ 3 มาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งสำหรับนักลงทุนไทยก็เริ่มติดตามคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาสที่ผ่านมาว่าจะเป็นเช่นไรบ้าง ดังนั้นในวันนี้ทางเราจึงได้หยิบผลประกอบการของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มสื่อสารมาพูดคุยกันในครั้งนี้
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า รายได้รวมของการให้บริการมือถือจะยังอ่อนตัวลงเล็กน้อยในไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดของปี เนื่องจากเป็นหน้าฝนทำให้กิจกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวลดลง แต่การแข่งขันด้านราคาที่อ่อนตัวลงตั้งแต่ปีก่อนจะชดเชยปัจจัยลบดังกล่าวไว้ได้
ขณะที่การให้บริการบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตยังขยายไปสู่พื้นที่ใหม่ได้ต่อเนื่องตามความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่มากขึ้น อีกทั้งยังมี ARPU สูงขึ้นจากการที่ผู้ให้บริการเพิ่มบริการเสริมเข้ามาต่อเนื่องในขณะที่ความของการแข่งขันก็อ่อนตัวลงเช่นกัน
ส่วนความสามารถการทำกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นหลังการควบรวมกิจการครั้งใหญ่และการความเข้มของการแข่งขันที่ลดลง ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้กำไรของกลุ่มฯ ดีขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกัน แต่เริ่มมีแนวโน้มที่แตกต่างกันเมื่อเทียบรายไตรมาส
โดยของ TRUE จะเพิ่มขึ้นจากการลดต้นทุน ในขณะที่กำไรของ ADVANC ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากต้นทุนด้านค่าใช้จ่ายการบริหารเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับ ADVANC ในไตรมาส 3/67 จะมีรายได้การให้บริการหลักอยู่ที่ 4.04 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 19% แต่ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากรายได้การให้บริการมือถือค่อนข้างทรงตัวเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ในขณะที่รายได้การให้บริการบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตและบริการด้านดิจิทัลแก่ลูกค้าองค์กรยังเติบโตต่อเนื่อง
ส่วนกำไรในไตรมาส 3/67 จะอยู่ที่ 8.3 พันล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกัน 16% จากแนวโน้ม ARPU ที่ดีขึ้นท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาที่เบาบางลงในอุตสาหกรรม แต่อย่างไรก็ดีจะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ส่วนกำไรงวด 9 เดือนปี 67 จะอยู่ที่ 2.55 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 276 บาท
ด้าน TRUE ในไตรมาส 3/67 จะมีรายได้การให้บริการหลักอยู่ที่ 4.14 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5% จากแนวโน้ม ARPU ที่ดีขึ้น แต่รายได้การให้บริการมือถือฯจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอาจเป็นเพราะมีสัดส่วนการให้บริการในพื้นที่ชนบทและชายแดนสูง จึงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว
สำหรับกำไรในไตรมาส 3/67 จะอยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 12% โดยมีปัจจัยบวกหลักคือการลดต้นทุนหลังการรวมกิจการเมื่อปีก่อนและแนวโน้ม ARPU ที่ดีขึ้น พร้อมกันนี้ยังพลิกกลับมาเป็นกำไรจากผลขาดทุนทุกไตรมาสในปีก่อนหน้า ส่วนกำไรงวด 9 เดือนปี 67 จะอยู่ที่ 6 พันล้านบาท ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท