รายงานพิเศษ : “ความเชื่อมั่นผู้บริโภค-โควิด-ท่องเที่ยว” กระตุ้นยอดขาย SFLEX ไตรมาส 4

3 ปัจจัยหลัก “ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้น - การระบาดของโควิด19 ทรงตัวระดับสูง - จำนวนนักท่องเที่ยวแตะ 11.5 ล้านคน” สนับสนุนยอดขายผลิตภัณฑ์ไตรมาส 4 บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ผู้นำการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกนิดอ่อน ให้กลับมาเติบโตแข็งแกร่ง 

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพ.ย. 65 อยู่ที่ 47.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 64 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 42.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ อยู่ที่ 45.2 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 56.4

โดยปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น มาจาก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เผย GDP ไตรมาส 3/65 ขยายตัวได้ 4.5% พร้อมทั้งคาดการณ์ GDP ทั้งปีนี้จะขยายตัวได้ 3.2% ขณะที่คาดว่าปี 66 GDP จะขยายตัวได้ 3-4% เป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากระดับราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง, ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น, เงินบาทแข็งค่า และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน และเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคให้ดีขึ้น

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และน่าจะต่อเนื่องไปในเดือนธ.ค. และม.ค. ผลจากการท่องเที่ยวมีทิศทางที่ดีขึ้น จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น ทำให้มีรายได้เข้าประเทศ นอกจากนี้สินค้าเกษตรหลายรายการมีราคาดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่ยังคงมีอยู่ รวมทั้งราคาน้ำมันไม่กดดันมาก ทำให้ประชาชนพร้อมจับจ่ายใช้สอยและออกไปท่องเที่ยว ทำให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ น่าจะมีเงินสะพัดราว 1 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดที่จะมีเงินสะพัดราว 1.2-1.3 แสนล้านบาท

สถานการณ์ต่างๆ ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นกระตุ้นการใช้ผลิตภัณฑ์ บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ในฐานะผู้นำการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภค เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน และผงซักฟอก เป็นต้น

บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าบริโภคบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนที่ใช้สำหรับบรรจุสินค้าบริโภค เช่น ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอาหารสัตว์ เป็นต้น

และบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอื่นๆ เช่น บรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นต้น โดยเฉพาะเมื่อการระบาดของโควิด 19 ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้อาการจะไม่รุนแรง แต่ทำให้การใส่หน้ากากอนามัยยังเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ขณะที่ระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุ สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบเริ่มชะลอตัวลง ยังจะพบการระบาดในลักษณะ Small Wave ทำให้บริษัทมีโอกาสขยายตลาดบรรจุภัณฑ์ทางการแพทย์มากขึ้น เนื่องจากโรงงานแห่งใหม่สามารถผลิตสินค้า Medical grade ที่มีความสะอาด ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ

ด้านสถานการณ์การท่องเที่ยวประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2565 เป็นจำนวนถึง 11,049,769 คน 

ส่วนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ตั้งแต่ที่ประเทศไทยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยแล้วเฉลี่ยวันละ 60,000-70,000 คน โดยกลุ่มหลักเป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย อินเดีย และ ขณะนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้ามาวันละประมาณ 5,000 คน เป็นผลจากที่มีการเพิ่มเที่ยวบินจากรัสเซียบินตรงมายังกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเริ่มมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำบินตรงมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา

โดยคาดว่าในปี 2565 นี้ยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีถึง 11.5 ล้านคน เมื่อรวมกับการท่องเที่ยวในประเทศ 175 ล้านคน/ครั้ง จะทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่ารวมในปี 2562

จากปัจจัยทั้งการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้น การระบาดของโควิด 19 ที่ยังทรงตัวระดับสูงและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์ SFLEX ส่งผลให้ในไตรมาส 4 ผลงานบริษัทปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา และบริษัทยังได้รับผลดีจากการทยอยปรับขึ้นราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มสูง รวมทั้งบริษัทเองก็อยู่ในช่วงศึกษาการลงทุนใหม่ เพื่อต่อยอดจากธุรกิจเดิม ทำให้การเติบโตของบริษัทแข็งแกร่งและยั่งยืนมากขึ้น