ผู้บริหารบมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) มั่นใจปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง หลังไตรมาส 2 สร้างผลงานโดดเด่น ทั้งธุรกิจด้านน้ำมัน (Oil) และธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil)
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุภาพรวมการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 29 ก.ย. 67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทั้งสิ้น 26,005,295 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,214,681 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน ,มาเลเซีย, อินเดีย, เกาหลีใต้ และรัสเซีย
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ 23-29 ก.ย. มีนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) กลับมาฟื้นตัวด้านการเดินทาง โดยเดินทางเข้ามาจำนวน 142,604 คน หรือเพิ่มขึ้น 6.85% จากสัปดาห์ก่อนหน้า และคาดว่าจะมีแนวโน้มด้านการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดที่ขยายตัวสูง อาทิ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร
ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาลดลง จากการสิ้นสุดการเดินทางในช่วงวันหยุดปิดภาคเรียนในประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 592,069 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 10,169 คน หรือ1.69% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 84,581 คน
ซึ่งการท่องเที่ยวและการเดินทางที่เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจน้ำมัน โดยเฉพาะปั้นน้ำมันของ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ซึ่งนอกจากจะให้บริการเรื่องน้ำมัน (Oil) แล้ว บริษัทยังมีความโดดเด่นในเรื่องการให้บริการในธุรกิจไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) เช่น ธุรกิจก๊าซLPG ร้านกาแฟพันธุ์ไทย และธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs
“พิทักษ์ รัชกิจประการ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG ส่งสัญญาณการเติบโตของบริษัท โดยระบุว่า บริษัทปรับเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางปี 67 เป็น 10-15% เทียบ YoY จากเดิมที่ 10-12% เนื่องจากปริมาณขายทุกช่องทางสร้างการเติบโตสูงจากปัจจัยภายในของทางบริษัทฯ
ส่วนธุรกิจ Non-Oil ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 24.5% เป็น 4,153 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจก๊าซ LPG ที่มีรายได้ 2,305 ล้านบาท เติบโต 13.1% เนื่องจากมีปริมาณการจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ที่ยังคงสร้างสถิติสูงที่สุดอย่างต่อเนื่องจำนวน 174 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้น 12.4% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG โดยรวมยังคงมาจากกลุ่ม Auto LPG จากการดำเนินโครงการ Taxi Transform และ Auto Transform ด้วยเป้าหมายในการสร้างความ อยู่ดี มีสุข ให้กับลูกค้าในทุกช่วงของชีวิตและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
ประกอบกับมีการเข้ามาใช้บริการของกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus โดยบริษัทยังคงครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มของปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ผ่านสถานีบริการเป็นอันดับที่ 1 ในไตรมาส 2/67 ที่ 29.8% และมีจำนวนสถานีบริการ Auto LPG ที่จำนวน 246 สถานี ขณะที่กลุ่มครัวเรือนเพิ่มขึ้น 9.8 % เทียบ YoY เป็น 37 ล้านลิตร ภายในสิ้นปีนี้ บริษัทคาดการณ์การขยายจุดจำหน่าย Gas Shop และ Auto LPG เป็น 738 จุด
ด้านธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 517 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.2% เป็นผลมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/67 มีจำนวนสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยทั้งสิ้น 1,028 สาขา เพิ่มขึ้น 46.2% นับเป็นการขยายสาขาแตะหลักพันเป็นครั้งแรก โดยมีการกลับมาซื้อซ้ำ ของลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ซึ่งปีนี้ทางบริษัทฯ ยังคงวางเป้าหมายการขยายสาขาของกาแฟพันธุ์ไทยไว้ที่ 400 สาขา
ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil บริษัทยังคงวางแผนขยายสาขาและ Touchpoints อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าในปี 67 วางเป้าจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ เป็น 961 Touchpoints เพิ่มขึ้น 329 Touchpoints การขยายสาขาจำนวนหลัก ๆ มาจาก ธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs, สถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT, และสาขาร้านสะดวกซื้อ Max Mart