รายงานพิเศษ : รัฐบาลหารือ 6 ผู้นำด้านการท่องเที่ยว กระตุ้นช่วง high season หนุนยอดเข้าพัก ASIA

นายกฯ หารือ 6 ยักษ์ใหญ่ท่องเที่ยว ร่วมฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง high season  ดันไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก  หนุนรายได้ บมจ. เอเชียโฮเต็ล (ASIA) ปีนี้โต 20%  

ต้องยอมรับว่า การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ หลังจากที่การส่งออกยังมีความเสี่ยงที่เข้ามากระทบทั้งจากค่าเงินบาทที่ปรับแข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน และสงครามในตะวันออกกลาง  ทำให้รัฐบาลต้องทุ่มเทพละกำลังเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว  

สะท้อนได้จากการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมระหว่างรัฐบาลไทยกับคณะผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำระดับโลกเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยมีทั้งหมด 6 บริษัทที่เข้าร่วม ได้แก่ Grab, Agoda, Expedia, IHG และ Marriott International, Trip.com Group และบมจ. การบินไทย (THAI) พร้อมเปิดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว "Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025" 

เพื่อสนับสนุนรายได้ปีนี้แตะที่ 3.4 ล้านล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40 ล้านคน และเกิดการเดินทางภายในประเทศมากกว่า 205 ล้านครั้งทั่วประเทศไทย  ทั้งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกและสถานที่อันน่าค้นหา (Hidden Gems) ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข หากแต่เป็นตัวแทนของความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลในการทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ที่มีชื่อเสียงในด้านมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ความงดงามทางธรรมชาติ และการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น 

การหารือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวไทยอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดตั้งภาคีเครือข่ายภาคเอกชนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ยกระดับประเทศไทยให้เป็นกลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก มุ่งสร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวรู้สึกประทับใจทั้งระบบ ตั้งแต่การจองตั๋ว การเดินทาง ภาคบริการ อุตสาหกรรมอาหาร แหล่งท่องเที่ยว จนถึงการเข้าพัก เพื่อร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย

โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอความร่วมมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 เดือนพฤศจิกายน-มกราคม ซึ่งถือว่าเป็นช่วง high season เนื่องจากรัฐบาลจะจัด Big Events จำนวนมาก ซึ่งจะเป็นโอกาสขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ด้วย และรัฐบาลต้องการผลักดันให้ปี 2568 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย 

ขณะเดียวกันคณะผู้บริหารฯ ได้นำเสนอแนวทางการสนับสนุนการท่องเที่ยวผ่านการจัดตั้งภาคีเครือข่ายภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Taskforce) ซึ่งจะบูรณาการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของทุกบริษัทชั้นนำระดับโลก ที่มีทั้งประสบการณ์และความชำนาญในเทคโนโลยี การเก็บรวบรวมฐานข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ จะช่วยยกระดับภาคการท่องเที่ยวไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  

ด้านนายแอนโธนี ตัน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Grab ซึ่งเป็นผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ และขอชื่นชมการทำงานของรัฐบาลที่สามารถดึงเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย ทั้งเสน่ห์ทางวัฒนธรรม อาหาร รวมถึงความใจดีของผู้คน ซึ่งวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้พูดคุยกับพันธมิตรบริษัทชั้นนำ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลก

นโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล  จะส่งผลดีต่อ บมจ. เอเชียโฮเต็ล (ASIA) ผู้นำในธุรกิจประเภทโรงแรมโดยให้บริการด้านห้องพักและภัตตาคาร ศูนย์การค้าให้เช่า และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  ซึ่ง “พัชรพล เตชะหรูวิจิตร”  ส่งสัญญาณแนวโน้มผลงานไตรมาส 3/67 สดใส ตามการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยเพิ่ม  และบริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มโซนคอมมูนิตี้มอลล์ด้านข้างโรงแรมเอเชียกรุงเทพ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและดำเนินการเสร็จแล้ว โดยจะรวบรวมร้านค้า ร้านอาหาร ที่เหมาะกับทุกคน  จะทำให้รายได้ปี 67 เติบโตตามเป้า 20%