รายงานพิเศษ : SSP ฐานะการเงิน-ผลดำเนินงานแข็งแกร่ง ทริสฯคงเครดิตองค์กร BBB+ ปีที่3
ทริสเรตติ้งประกาศคงอันดับเครดิต ของบมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ที่ BBB+ แนวโน้ม Stableสะท้อนฐานะการเงินที่เข้มแข็งและการเติบโตในระยะยาว
ทริสฯ สถาบันจัดอันดับของไทย ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กร SSP ที่ BBB+ แนวโน้ม Stable ซึ่ง “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP ระบุ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรระดับ "BBB+" ด้วยอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตั้งแต่ปี 2565 - 2567 สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ลงทุนมีความมั่นคง สามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้กำหนดเป้าหมายการเติบโต โดยจากการกำหนดกลยุทธ์การเติบโตในช่วง 5 ปีข้างหน้า ด้วยแผนเพิ่มกำลังการผลิตสุทธิให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประมาณ 600 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปี 2571 และปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการในหลายๆ ประเทศ โดยเป็นโรงไฟฟ้าจากพลังงานหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานขยะ
โดยในประเทศญี่ปุ่น บริษัทฯ กำลังพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ "LEO 2" ขนาด 22 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2568 ส่วนในประเทศไทย กำลังพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะชุมชน จำนวน 2 โครงการ ด้วยกำลังการผลิตรวม 19.8 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการในช่วงปลายปี 2569 รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อีก 3 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 134.5 เมกะวัตต์ และมีกำหนดจะเริ่มเปิดดำเนินการในระหว่างปี 2570 - 2571
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอีก 2 โครงการในไต้หวัน กำลังการผลิตตั้งรวม 56.5 เมกะวัตต์ โดยโครงการเหล่านี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 และ 2571 ตามลำดับ
ทั้งนี้ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า SSP มีสภาพคล่องที่เพียงพอ โดยโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากสัญญาเงินกู้โครงการระยะยาวเป็นหลัก ณ เดือนมิถุนายน 2567 มีหนี้สินทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่จะครบกำหนดชำระคืนภายใน 12 เดือนข้างหน้าจำนวนรวมทั้งสิ้น 3.5 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีเงินสดจำนวน 3.8 พันล้านบาท นอกจากนี้ ทริสเรทติ้ง คาดว่าบริษัทฯ จะมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ประมาณ 1.7 พันล้านบาทในช่วง 12 เดือนข้างหน้าด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมใน บริษัท วินชัย จำกัด มูลค่า 2.1 พันล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 100% ช่วยลดความกังวลและผลกระทบจากการที่ค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPN จะหมดอายุลงในเดือนมกราคม 2568 ด้วยรายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 45 เมกกะวัตต์ ของวินชัยที่คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ราว 700 - 800 ล้านบาทต่อปี
"การที่ทริสฯ จัดอันดับองค์กรให้อยู่ระดับ BBB+ นั้น ถือเป็นการตอกย้ำความเข้มแข็งในด้านฐานะการเงินของบริษัทฯ ซึ่งมีความพร้อมในการรองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนทำให้พอร์ตเติบโต โดยปัจจุบัน SSP มีกำลังการผลิตอยู่รวมที่ 282 เมกะวัตต์ ตั้งเป้าเติบโตกว่า 600 เมกะวัตต์ในปี 2571" นายวรุตม์ กล่าว