STI - STH สานต่อโครงการ “ต่อ เติม สุข เพื่อคนพิการ” เป็นปีที่ 3 มุ่งเน้นลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ – ต่อยอดสร้างประโยชน์คืนสังคม
บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (STI) และ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ จำกัด (STH) เดินหน้าโครงการ “ต่อ เติม สุข เพื่อคนพิการ” ส่งมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้วจำนวนกว่า 300 ชิ้น ส่งมอบให้กับ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล เพื่อนำไปซ่อมแซมและจำหน่าย นำรายได้ไปจัดซื้อวีลแชร์มอบให้กับคนพิการทั่วประเทศไทย พร้อมต่อยอดมุ่งมั่นในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายสมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข กรรมการบริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำในกลุ่มธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน รวมถึงบริษัท สโตนเฮ้นจ์ จำกัด (STH) ร่วมมือสานต่อโครงการเพื่อสังคม “ต่อ เติม สุข เพื่อคนพิการ” เป็นปีที่ 3 ส่งมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้ว จำนวนกว่า 300 ชิ้น ให้กับสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล เพื่อนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับบริจาคไปซ่อมแซมและแยกชิ้นส่วนเพื่อจำหน่าย โดยนำรายได้จากการจำหน่ายไปช่วยเหลือผู้พิการ และจัดซื้อวีลแชร์มอบให้กับคนพิการทั่วประเทศไทย ซึ่งแต่ละครั้งในการเปิดรับบริจาค ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเสมอมา
นายสมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข กล่าวเสริมว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดโครงการ 'ต่อ เติม สุข เพื่อคนพิการ' เป็นปีที่ 3 แล้ว โดยในวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา เราได้ส่งมอบสิ่งของที่ได้รับบริจาคให้กับสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการช่วยเหลือและสร้างโอกาสให้กับผู้พิการในสังคมของเรา”
สำหรับโครงการ “ต่อ เติม สุข เพื่อคนพิการ” นอกจากเป็นการช่วยเหลือผู้พิการแล้ว โครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ที่บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบันหลายคนยังมีการจัดการหรือนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปกำจัดอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้วมารีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ในโครงการนี้ นับเป็นอีกหนึ่งทางในการช่วยลดการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์และประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งนำมาต่อยอดสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้
กลุ่มบริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะดำเนินโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องทุกปี เพราะเชื่อว่าการช่วยเหลือสังคมและการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่สำคัญของภาคธุรกิจ ที่สอดคล้องกับนโยบายด้านความยั่งยืนของบริษัท ในการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตควบคู่กันไปในทุกมิติ