จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : MENA รับอานิสงส์ รัฐบาลเร่งลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง


10 ตุลาคม 2567

การลงทุนภาครัฐเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยปีนี้ให้เติบโตได้ดีขึ้น และส่งผลดีต่อธุรกิจต่อเนื่อง รวมทั้งการขนส่งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค ของ บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ให้ครึ่งปีหลังเติบโตแกร่ง 

รายงานพิเศษ MENA รับอานิสงส์ รัฐบาลเร่งลงทุน.jpg

ธนาคารโลก (World Bank) คงคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ไทยในปี 2567 จะอยู่ที่ 2.4% เร่งตัวขึ้นจาก 1.9% ในปี 66 โดยการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก โดยได้รับการสนับสนุนจากการเร่งดำเนินการงบประมาณและการส่งออกสินค้า การท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ที่ยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในปีนี้

ด้านการท่องเที่ยว จะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดได้ในกลางปี 68 ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปของดอลลาร์สหรัฐปีนี้ จะเติบโต 2.4% เนื่องจากการค้าโลกที่เอื้ออำนวยแม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) จะชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในภูมิภาคที่ 0.7% ซึ่งต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ทั้งนี้ ธนาคารโลก ยังคาดว่าในปี 68 เศรษฐกิจไทยจะเร่งตัวขึ้นเป็น 3.0% โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนที่ฟื้นตัว

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนก.ค.67 ธนาคารโลกได้ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.4% ส่วนปี 68 ขยายตัวได้ 2.8%

สอดคล้องกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง  กล่าวว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ต.ค. 66 - ก.ย. 67) กรมบัญชีกลาง ได้ติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

โดยภาพรวมมีการเบิกจ่ายแล้ว 3,273,967.22 ล้านบาท คิดเป็น 94.08% ของวงเงินงบประมาณ 3,480,000 ล้านบาท ด้านรายจ่ายประจำเบิกจ่ายแล้ว 2,829,329.35 ล้านบาท คิดเป็น 101.14% ของวงเงินงบประมาณ 2,797,564.46 ล้านบาท 

ด้านรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายแล้ว 444,637.87 ล้านบาท คิดเป็น 65.15% ของวงเงินงบประมาณ 682,435.54 ล้านบาท  ส่วนเงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีเบิกจ่ายแล้ว 146,429.74 ล้านบาท คิดเป็น 92.37% ของวงเงินงบประมาณ 158,517.77 ล้านบาท

การเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาล ส่งผลดีต่อธุรกิจของบมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ซึ่ง “สุวรรณา ขจรวุฒิเดช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เชื่อว่าบริษัทฯ ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2  และเห็นสัญญาณบวกจากลูกค้ารายใหญ่เริ่มติดตามรถ Mixer ให้ประจำแพล้นท์ปูนเพิ่มขึ้น รวมถึงเริ่มมีการอนุมัติโครงการก่อสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส1/2568และรับอานิสงส์จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง สินค้าควบคุมอุณหภูมิสดใส

อีกทั้งบริษัทจะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก TDM โดยบริษัทฯ มีแผนใช้ยานพาหนะขนส่งที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อผลักดันให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้