นักลงทุนเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจ “ธุรกิจขายตรง” ในประเทศไทย มีผลประกอบการเป็นอย่างไรกันบ้าง ทีมข่าว ได้รวบรวมข้อมูลงบการเงินบริษัทชื่อดังของไทยมาฝากนักลงทุนแล้ว
เริ่มกันที่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอย่าง SCM หรือ บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในรูปแบบเครือข่าย หรือ Multi-level Marketing (MLM) โดยแบ่งได้เป็น 3 ธุรกิจหลักได้แก่ (1) ธุรกิจเครื่อข่ายเพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศและต่างประเทศ (2) ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจเครือข่ายและรับจัดงานสัมมนา และ (3) ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และโรงงานผลิตสินค้า
โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีรายมีรายได้จากการขายสินค้าและการบริการ 310 ล้านบาท ลดลง 35.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 25.77 ล้านบาท ลดลง 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปี 2566 มีรายได้รวม 983 ล้านบาท ลดลง 16% และมีกำไรสุทธิ 86 ล้านบาท ลดลง 48% จากปีก่อน
ต่อด้วยเจ้าใหญ่ของวงการอย่าง “แอมเวย์” หรือ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ปี 2566 มีรายได้ 16,859 ล้านบาท ลดลง 5.36% แต่มีกำไรสุทธิ 943 ล้านบาท เติบโต 83.94% จากปีก่อน
ตามด้วย บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้กลยุทธ์การทำตลาดในลักษณะเครือข่าย (Multi-level marketing) เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันสู่กลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทย และได้มีการกระจายฐานลูกค้าในทุกภูมิภาค
โดยข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ปี 2566 มีรายได้ 1,975 ล้านบาท ลดลง 0.65% และมีกำไรสุทธิ 143 ล้านบาท ลดลง 30.41% จากปีก่อน
ส่วนบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด หรือที่รู้จักกันดีในนาม กิฟฟารีน โดยข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ปี 2566 มีรายได้ 4,123 ล้านบาท ลดลง 2.95% และมีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท ลดลง 13% จากปีก่อน
ปิดท้ายกันที่ บริษัทที่มีกระแสดราม่าสุดร้อนในตอนนี้ อย่าง The iCon Group หรือ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัดหลังสื่อออนไลน์ตีข่าวเข้าข่ายหลอกลงทุนเป็นลักษณะแชร์ลูกโซ่ โดยใช้ศิลปินดาราคนดังเป็นตัวดึงดูด โดยข้อมูลปี 2566 พบว่า มีรายได้ 1,891 ล้านบาท ลดลง 38.42% และมีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท ลดลง 89.48% จากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม The iCon Group มีรูปแบบธุรกิจที่เน้นการตลาดแบบเครือข่าย ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า สรุปแล้วเป็นธุรกิจขายตรงหรือแชร์ลูกโซ่กันแน่
สรุปผลบริษัทการของทั้ง 5 บริษัทดังกล่าว พบว่า รายได้ปี 2566 มีการปรับตัวลดลงทุกบริษัท แต่ในแง่ของกำไรสุทธิพบว่า มีเพียง “แอมเวย์” เท่านั้น ที่รายงานกำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่นกว่า 83.94% แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ