รายงานพิเศษ : PCC ออกผลิตภัณฑ์มุ่งสู่พลังงานสะอาด หนุนเป้ารายได้ปีนี้โต 10%
แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ (PDP 2024) ระบุถึงกิจกรรมการลงทุนในภาคไฟฟ้าที่มีข้อผูกพันไว้ และที่จะเปิดรับเพิ่มเติมตามแผนในช่วงก่อนปี 2573 โดยจะมีการลงทุนมากกว่า 650,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
- พลังงานหมุนเวียนประมาณ 13,300 MW คิดเป็นมูลค่าลงทุนประมาณ 525,000 ล้านบาท
- โรงไฟฟ้าฟอสซิลประมาณ 5,300 MW คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 125,000 ล้านบาท
โดยบทบาทของพลังงานหมุนเวียนจะมีมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่โครงสร้างระบบไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์และธุรกิจไฟฟ้ารูปแบบใหม่ที่จะต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถรองรับได้ รวมทั้งมีแผนสมาร์ทกริดที่จะมารองรับการเปลี่ยนผ่านนี้ ซึ่งมีแผนงานที่คิดเป็นเงินลงทุนทั้งแผนอีกประมาณกว่า 400,000 ล้านบาทซึ่งถ้ากล่าวถึงบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจไฟฟ้าครบวงจร ต้องคิดถึง บมจ.พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น (PCC) ผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มครอบคลุมอุตสาหกรรมสมาร์ทกริดของประเทศไทย โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ PCC “กิตติ สัมฤทธิ์” (PCC) ระบุว่า ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4.63 พันล้านบาท โดยมีมูลค่างานในมือ (backlog) ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 3,192 ล้านบาท
แบ่งเป็น รายได้จากการให้บริการและโครงการก่อสร้างอยู่ที่ 2,263 ล้านบาทและรายได้จากการขายอยู่ที่ 929 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้และปีหน้า พร้อมมองโอกาสในการเติบโตของธุรกิจจากการพัฒนาเทคโนโลยีระบบสมาร์ทกริด เพื่อรองรับการบูรณาการพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพสูงสุด
“บริษัทตั้งเป้ารายได้เดิบโต 10%ในปีนี้ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพในการเติบโตจากอุตสาหกรรมไฟฟ้าระบบ Smart Grid หรือระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีหลากหลายประเภทเข้ามาทำงานร่วมกัน ทำให้ระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางกระทรวงพลังงานผลักดันผ่านแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย โดยบริษัทฯยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” นายกิตติกล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อมุ่งสู่พลังงานสะอาด โดย บริษัท พรีไซซ อีเลคตริค แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PCC เข้ารับมอบโล่โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์5 ปี2567 สำหรับผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้เพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มุ่งสู่พลังงานสะอาด และความเป็นกลางทางคาร์บอน ตามเป้าหมายของประเทศโดยกฟผ. ได้ดำเนินงานด้านการใช้ไฟฟ้า ด้วยมาตรการที่เหมาะสมและคุ้มค่า ส่งผลให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้กว่า 38,000 ล้านหน่วย คิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 31 ล้านตัน