Talk of The Town

9 หุ้นสายชิ่ง! ราคาพุ่งแรง สวนทางงบที่ขาดทุน


18 ตุลาคม 2567

ช่วงนี้หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่อง แต่หากเข้าไปสำรวจหุ้นรายตัวพบว่า 9 อันดับแรกที่ราคาหุ้นบวกแรงสุดในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา (สิ้นสุดวันที่ 16 ตุลาคม 2567) ในแง่ของผลประกอบการยังมีขาดทุนสุทธิอยู่จำนวนมาก ซึ่งจะมีบริษัทอะไรบ้าง Share2Trade มีคำตอบมาให้แล้ว

9 หุ้นสายซิ่ง_S2T (เว็บ) copy.jpg

เริ่มกันที่หุ้นบวกแรงอันดับ 1 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 178% ขณะที่ผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิกว่า 146 ล้านบาท 

ส่วนอับดับ 2 บริษัท เคดับบลิวไอ จำกัด (มหาชน) หรือ KWI ผู้ดำเนินธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันวินาศภัย ธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 69.70% สวนทางกับผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิ 579 ล้านบาท

อันดับ 3 บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ SBNEXT ในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 63.64% สวนทางกับผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิ 376 ล้านบาท 

โดยในช่วงที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท และตราประทับบริษัท ซึ่งเปลี่ยนจาก บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ SBNEXT เป็น บริษัท ทีเอสอาร์ ลิฟวิ่ง โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TSR

อันดับ 4 บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM บริษัทพัฒนาธุรกิจในธุรกิจจำหน่ายและผลิตอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยง โดยแบ่งเป็น สายการผลิตอาหารกุ้ง (Shrimp Feed) สายการผลิตอาหารปลา (Fish Feed) และอาหารสัตว์เลี้ยง (PET Food) โดยในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 56.60% สวนทางกับผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิ 44.11 ล้านบาท

อันดับ 5 บริษัท บี-52 แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ B52 ลักษณะธุรกิจ 1.ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค โดยการเชื่อมโยงเครือข่าย Consumer Products Distribution Network จากทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทยเข้าไว้ด้วยกัน 

2. ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce business) ซึ่งรวมถึงการซื้อขายสินค้าและบริการออนไลน์ภายใต้ e-paltform ชื่อ abcpoint และการให้บริการเป็นตัวแทนชำระเงิน (e-Payment collection service) ผ่าน WeChat Pay และ Alipay และ 3. ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

โดยในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ราคาหุ้น B52 เพิ่มขึ้นกว่า 52.73% ขณะที่ ผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิ 43.64 ล้านบาท

ส่วนอันดับ 6 บริษัท เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASN บริษัทดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยซึ่งมุ่งเน้นการขายประกันภัยรถยนต์เป็นหลัก และธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ โดยในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 52% ขณะที่ ผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิ 1.78 ล้านบาท

อันดับ 7 บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC ลักษณะธุรกิจ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. Digital Network 2. Digital Content โดยในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 50% ขณะที่ ผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิ 36.17 ล้านบาท

อันดับ 8 บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ ARIN ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 46.74% ขณะที่ ผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิ 18.21 ล้านบาท

และอันดับ 9 บริษัท ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CSP มีลักษณะธุรกิจ ประกอบด้วย 1. ศูนย์บริการเหล็ก โดยดำเนินธุรกิจแปรรูปและจำหน่าย จัดหาเหล็กแผ่นชนิดม้วน และให้บริการแปรรูปเหล็ก ทั้งชนิดรีดเย็น (Cold-Rolled) และ รีดร้อน (Hot-Rolled) รวมทั้งรับตัดและจำหน่ายเหล็กแผ่น (Plate) และเหล็กม้วน (Slitting Coil) ตามขนาดที่ลูกค้ากำหนด 2. ผลิตและจำหน่ายเหล็กรูปพรรณ ได้แก่ ท่อเหล็กรีดเย็น/ร้อน ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ

โดยในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 36.51% ขณะที่ผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิ 47.33 ล้านบาท

9 หุ้นสายซิ่ง_S2T (เพจ) copy.jpg