Talk of The Town
OSP ไตรมาส 3 ส่อแววกำไรทรุด! เซ่นพิษตั้งด้อยค่าที่เมียนมา 800 ลบ. ฉุดผลประกอบการพลิกขาดทุน
21 ตุลาคม 2567
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ OSP บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) วันนี้ (21 ต.ค.67) ปรับตัวลดลงกว่า 3.6% โดยการซื้อขายในภาคเช้าราคาหุ้นทำจุดต่ำสุดที่ 21.20 บาท
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่า OSP จะรายงานผลประกอบการในไตรมาส 3/67 ขาดทุนสุทธิที่ 204 ล้านบาท พลิกจากกำไรสุทธิในไตรมาส 2/67 และ3/66 จากรายการพิเศษบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนในเมียนมาร์ราว 800 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีหากไม่รวมรายการดังกล่าวคาดมีกำไรไตรมาส 3/67 จะอยู่ที่ 596 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 35% เพราะยอดขายลดลงจากผลของฤดูกาล แต่ยังเติบโตจากช่วงเดียวกัน 6% เนื่องด้วยมีมาร์จิ้นสูงขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A/sale) ลดลง
พร้อมกันนี้ ได้ปรับลดคำแนะนำลงเป็น “Neutral” เพราะคาดกำไรปกติไตรมาส 3/67 ที่อ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าและคาดกำไรในช่วง 4/67 จะเติบโตไม่โดดเด่นมาก
เช่นเดียวกันกับนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) คาดว่า OSP จะรายงานขาดทุนสุทธิ 200 ล้านบาท ในไตรมาส 3/67 ซึ่งหากไม่รวมรายการจ่ายเงินจากการขายธุรกิจ OEM ขวดแก้วในเมียนมาร์ที่ 800 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 100 ล้านบาท คาดการณ์กำไรปกติจะอยู่ที่ 700 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายจากการขายธุรกิจ OEM ในเมียนมาร์ไม่ใช่เรื่องใหม่และตลาดไม่น่าจะมองลบในเรื่องนี้
ทั้งนี้ กำไรปกติที่ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 25% แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 23% เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้เล็กน้อย เนื่องจากธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่สะดุด
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่า OSP จะรายงานผลประกอบการในไตรมาส 3/67 ขาดทุนสุทธิที่ 204 ล้านบาท พลิกจากกำไรสุทธิในไตรมาส 2/67 และ3/66 จากรายการพิเศษบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนในเมียนมาร์ราว 800 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีหากไม่รวมรายการดังกล่าวคาดมีกำไรไตรมาส 3/67 จะอยู่ที่ 596 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 35% เพราะยอดขายลดลงจากผลของฤดูกาล แต่ยังเติบโตจากช่วงเดียวกัน 6% เนื่องด้วยมีมาร์จิ้นสูงขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A/sale) ลดลง
พร้อมกันนี้ ได้ปรับลดคำแนะนำลงเป็น “Neutral” เพราะคาดกำไรปกติไตรมาส 3/67 ที่อ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าและคาดกำไรในช่วง 4/67 จะเติบโตไม่โดดเด่นมาก
เช่นเดียวกันกับนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) คาดว่า OSP จะรายงานขาดทุนสุทธิ 200 ล้านบาท ในไตรมาส 3/67 ซึ่งหากไม่รวมรายการจ่ายเงินจากการขายธุรกิจ OEM ขวดแก้วในเมียนมาร์ที่ 800 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 100 ล้านบาท คาดการณ์กำไรปกติจะอยู่ที่ 700 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายจากการขายธุรกิจ OEM ในเมียนมาร์ไม่ใช่เรื่องใหม่และตลาดไม่น่าจะมองลบในเรื่องนี้
ทั้งนี้ กำไรปกติที่ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 25% แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 23% เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้เล็กน้อย เนื่องจากธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่สะดุด