Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 22-10-24 (เจ๊จิ๋มกลับมาแล้วนะ!!!)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 22-10-24 (เจ๊จิ๋มกลับมาแล้วนะ!!!)
22-10-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ซา หวัด ดี ค่า!!!เจ๊จิ๋มกลับมาแล้วค่ะมิตรรักแฟนคลับข๋าาาาาา ด้วยรักและคิดถึงอย่างยิ่ง..ไม่อยากจะบอกเลยว่าไปเป็นผู้ประสบภัยเล็กๆ ที่เมืองมอสโก-รัสเซีย!!! ก่อนไปเจ๊ดูพยากรณ์อากาศ รายงานว่าจะอยู่แถวๆ 8 องศา... ขุ่นพระ!!!! หนาวยะเยือก ไม่ทันแล้วค่ะ..หิมะตก!!!! หนาวมากกกกกกก ได้ยินว่าเป็นหิมะแรกของฤดูหนาวรอบนี้ของเค้าเลย..ทริปนี้ดีค่ะ สวย+สนุก ทุกวันจริงๆ อาหารทานได้นะ ..ท่านที่ยังไม่เคยไปเที่ยวมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แนะนำเลยนะ
***มาว่าเรื่องหุ้นกันมั่ง..ห่างหายไปหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ต้องกลับมาทบทวนทำการบ้าน อ่านข้อมูล รื้อไฟล์สมองยกใหญ่ ..สารภาพว่ายังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ ยังเจ็ทแล็กนิดๆ เกี่ยวกับเวลานอน-เวลาตื่น งง-งง อยู่นิดๆ
***สัปดาห์นี้ กูรูคาดว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวนอีกครั้งหลังขึ้นทดสอบ 1500 จุดท่ามกลางตัวแปรที่ไม่ชี้ทิศทางตลาดที่ชัดเจน ที่สำคัญสัปดาห์ก่อน SET INDEX ปรับตัวขึ้นมาทดสอบ 1500 จุด แต่ยืนไม่อยู่ ตัวแปรสำคัญสัปดาห์นี้คือ สถานการณ์ตะวันออกกลาง และการรายงานกำไรบริษัทในตลาดหุ้น
***สถานการณ์ข้างนอกตอนนี้ เกี่ยวกับการสังหาร “ยาห์ยา ซินวาร์” หนึ่งในผู้น ากลุ่มฮามาส ทำให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะเพิ่มการตอบโต้อิสราเอลรุนแรงขึ้น สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ใช้โดรนโจมตีบ้านพักเพื่อลอบสังหาร นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และภริยา โดยอิสราเอลประกาศว่าเตรียมตอบโต้การโจมตีดังกล่าว และมีความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะเปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่านเพื่อเป็นการตอบโต้ที่อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา เราประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจท าให้สงครามขยายเป็นวงกว้าง กระทบต่อราคาน้ำมัน, เศรษฐกิจ รวมไปถึงการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก
***ขอเริ่มกันที่อาการของ STEC ที่เจ๊เป็นห่วงแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ยังมีหุ้นติดอยู่ในมือตอนนี้.. ว่าจะเป็นเช่นใดต่อไป เพราะตั้งแต่เมื่อวานแล้ว(17 ต.ค.67)ที่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตไว้ แต่ไม่สามารถที่จะนำไปขอแปลงเป็นบริษัทใหม่ได้..ทำเอาราคาร่วงติดฟลอร์เลย!!! ล่าสุดรูดลงมาอยู่ที่ 5.50 บาท ลดลง 2.40 บาท หรือ -30.38%
***เรื่องนี้ บล.ธนชาต แนะนำนักลงทุนว่า “ไม่ซื้อ” หุ้นของ STEC ในปัจจุบัน เนื่องจากนักลงทุนที่ซื้อหุ้น STEC หลังจากวันที่ 17 ต.ค.จะไม่สามารถตอบรับคำเสนอซื้อหุ้นของ STECON ได้ และคาดว่ากระทบนี้จะทำให้หุ้นของ STEC ยังคงถูกกดดันต่อไป
***มาถึงเรื่องของ กนง. มีมติ 5:2 ให้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง -25 bps เหลือ 2.25% จากเดิม 2.5%..จำเป็นต้องบอกให้แฟนคลับรู้ซ้ำๆ ย้ำๆ โดยกูรูหุ้นบอกว่าจำทำให้ Equity risk Premium ตลาดหุ้นไทยกว้างขึ้นถึง 3.62% ใกล้ +1SD ที่ 4%+/- จะทำให้ตลาดหุ้นเร่งขึ้น สู่ดัชนีเป้าหมายสิ้นปีนี้ที่ 1540 จุด โดยประเมินทุกๆ 25 bps เป็น Upside ต่อ SET Index ราว 45-50 จุด
***ส่วนหุ้นเด่น แนะนำกลุ่มได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยปรับลดลง
-กลุ่มเช่าซื้อ (จำนำทะเบียน MTC , JMT)
-กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GPSC)
-กลุ่มหนี้สูง (CPALL, TRUE, IVL)
-กลุ่มอสังหาฯ (AP, SIRI, SC)
-กลุ่ม High Yield (ADVANC)
***ปิดท้ายวันนี้กับการอัพเดทข้อมูลจากค่าย KSS ระบุว่าทีมกลยุทธ์ได้คำนวณหุ้นเข้า/ออก SET50-SET100 สำหรับรอบครึ่งแรกของปี 2568 ก่อนที่ตลาดจะประกาศการคัดเลือกหุ้นเข้าออกรอบนี้ในช่วงกลางเดือน
ธ.ค.นี้ และมีผลเริ่มใช้ 1 ม.ค. 2568 สำหรับผลการคำนวนในรอบนี้ใช้ข้อมูลตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2566 – 30 ก.ย. 2567(ยังเหลือข้อมูลราว 2 เดือน) ผลของการคาดการณ์น่าจะมีความใกล้เคียงในส่วนของ SET50 แต่อาจคาดเคลื่อนในส่วนของ SET100 ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้นักลงทุนเตรียมตัวสeหรับการลงทุนในดัชนี SET50 และ SET100 ล่วงหน้าได้
***โดยมีรายละเอียด ดังนี้
-หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ BANPU (โอกาสเข้า 90%), SAWAD (โอกาสเข้า 90%), COM7 (โอกาสเข้า 90%) และTCAP (โอกาสเข้า 60%)
-หุ้นคาดว่าจะหลุด SET50 รอบนี้ 4 บริษัท คือ BCP (โอกาสหลุด60%), TIDLOR (โอกาสหลุด 60%), CENTEL (โอกาสหลุด 90%) และEA (โอกาสหลุด 100%)
-หุ้นที่คาดเข้า SET100 รอบนี้มี 3 บริษัท คือ CCET, COCOCO และ JTS
-หุ้นที่คาดว่าจะหลุด SET100 รอบนี้ 3 บริษัท คือ TIPH, MBK และ RBF